นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ต.ค.52 มีจำนวน 3.993 ล้านล้านบาท คิดเป็น 45.83% ของ GDP ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 8,898.23 ล้านบาท
แยกเป็นการลดลงของหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน 5,326 ล้านบาท การลดลงของหนี้ที่รัฐบาลค้ำประกันทั้งหนี้ในประเทศและหนี้ต่างประเทศ โดยหนี้ในประเทศรัฐบาลค้ำประกันลดลง 3,331 ล้านบาท จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ไถ่ถอนพันธบัตร จำนวน 2,000 ล้านบาท และการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทลดลง 3,380 ล้านบาท
นอกจากนี้หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลงสุทธิ 2,501 ล้านบาท จากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดและการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทลดลง 1,475 ล้านบาท และ หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 1,965 ล้านบาทจากการซื้อคืนพันธบัตรของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน
ส่วนหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 894 ล้านบาท จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ออกพันธบัตร จำนวน 1,000 ล้านบาท
สำหรับยอดหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด แยกเป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2.584 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.103 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 209,596 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 96,182 ล้านบาท
เป็นสัดส่วนหนี้ต่างประเทศ 379,163 ล้านบาท คิดเป็น 9.50% และ หนี้ในประเทศ 3.613 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.50% เป็นหนี้ระยะยาว 3.630 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.92% และหนี้ระยะสั้น 362,520 ล้านบาท คิดเป็น 9.08%