"โอบามา" ลั่นกระตุ้นภาคธุรกิจธนาคารปล่อยเงินกู้เพิ่มมากขึ้น

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 23, 2009 10:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐประกาศปรับปรุงมาตรการกำกับดูแลภาคธุรกิจธนาคารให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นหารือถึงบทบาทของธนาคารที่มีต่อภาคธุรกิจ พร้อมระบุถึงความจำเป็นในการกระตุ้นธนาคารขนาดเล็กให้มีส่วนร่วมในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

ขณะเดียวกันนางเชลา แบร์ ประธานบรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (Federal Deposit Insurance Corp : FDIC) กล่าวว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการกำกับดูแลต้องทำงานหนักขึ้นในการเพิ่มระดับเงินทุน ที่สำคัญธนาคารขนาดเล็กต้องกระจายตัวเลขดุลบัญชีในธนาคารให้มีความหลากหลายมากขึ้นในการดำเนินธุรกิจ

รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า มีธนาคารสหรัฐเพียงไม่กี่แห่งที่นำเงินทุนของรัฐบาลไปใช้ออกเงินกู้ให้กับภาคธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งผู้นำสหรัฐทราบดีว่า ธนาคารผู้ปล่อยกู้จำเป็นต้องเพิ่มความรอบคอบในการตรวจสอบประวัติการเงินของผู้ปล่อยกู้ในยามที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตการเงิน ดังนั้น ธุรกิจที่ต้องการเงินทุนจึงไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่ายเหมือนอย่างแต่ก่อน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคลังสหรัฐเปิดเผยถึงวิธีการใหม่ๆในการใช้เงินทุนในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐที่จัดสรรไว้เป็นสินเชื่อสำหรับภาคธุรกิจขนาดเล็ก แต่จนถึงขณะนี้มีแหล่งปล่อยเงินกู้เพียงเพียง 49 แห่งจาก 7,408 แห่งทั่วประเทศที่ใช้สิทธิในการอัดฉีดเงินทุนเข้าสู่ภาคธุรกิจต่างๆ ขณะที่มีธนาคาร 7 แห่งรับเงินเฉลี่ย 4.4 ล้านดอลลาร์ภายใต้โครงการที่โอบามาประกาศไว้ในเดือนต.ค.เพื่อจัดสรรไว้ตามแผนการปล่อยเงินกู้ให้แก่ภาคธุรกิจขนาดเล็ก

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับปัญหาในตลาดแรงงานนับตั้งแต่สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเมื่อเดือนธ.ค.2550 ซึ่งทำให้มีผู้ตกงานในประเทศแล้ว 7.2 ล้านคน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า อัตราว่างงานจะยังคงอยู่เหนือระดับ 10% ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ