นายศุภชัย โพธิ์ศุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า แนวโน้มราคายางพาราในปี 2553 ไม่น่าจะต่ำกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท เนื่องจากหากราคายางตกต่ำ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้องค์การสวนยางฯ สามารถเข้าไปแทรกแซงราคายางพาราได้ ขณะที่รัฐบาลเองยังมีมาตรการในการสร้างความมั่นคงทางด้านเสถียรภาพราคายาง โดยเฉพาะการอนุมัติวงเงิน 8 พันล้านบาท ให้กับสถาบันเกษตรกรนำไปรับซื้อน้ำยางจากสมาชิกสหกรณ์มาแปรรูปเก็บในสต็อกที่มีความจุยางได้ประมาณ 2 แสนตันแล้วจึงส่งขายต่อไปยังต่างประเทศ
ประกอบกับตลาดซื้อขายล่วงหน้ากรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศราคายางแผ่นดิบรมควันอยู่ที่กิโลกรัมละ 99 บาท
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงทางด้านตลาดรับซื้อยางพาราให้เพิ่มสูงขึ้น ในปี 2553 จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการยางจากประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก เพื่อร่วมกันหาแนวทางการช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจของโลก และความไม่มั่นคงด้านการเมืองภายในประเทศ อาจส่งผลกระทบทางด้านราคาและการส่งออกยางพาราบ้าง