ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย ระหว่างสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกับพวกรวม 43 คน(ผู้ฟ้อง) กับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กับพวกรวม 8 คน(ผู้ถูกฟ้อง) และบริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด กับพวกรวม 36 คน(ผู้มีส่วนได้เสีย)
โดยประเด็นที่นัดไต่สวนครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีมีชาวบ้านที่เป็นผู้ฟ้อง 10 รายยื่นคำร้องขอถอนฟ้องในคดีดังกล่าว
"ศาลนัดไต่สวนกรณีที่ชาวบ้าน 10 รายไปขอถอนฟ้อง ศาลจึงขอไต่สวนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร" นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ ตนเองจะยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลลงโทษผู้ที่ไปแอบอ้างเพื่อชักจูงให้ชาวบ้านไปถอนฟ้อง
คดีนี้ผู้ฟ้องคดี ระบุในคำฟ้องว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 กับพวกรวม 8 คน ออกใบอนุญาตให้โครงการและกิจกรรมต่างๆ ของเอกชนในงานอุตสาหกรรมบริเวณพื้นที่มาบตาพุด-บ้านฉาง และพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดระยอง โดยอาศัยรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่จัดทำขึ้นโดยมิได้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีเพิกถอนใบอนุญาตเพิกถอนรายการวิเคราะห์ที่ไม่ชอบ อีกทั้งให้มีการจัดทำรายงานใหม่ให้ถูกต้อง และผู้ฟ้องคดียื่นคำขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยขอให้ระงับการดำเนินกิจกรรมใดๆ ในปัจจุบันสำหรับโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้ดำเนินการจัดทำการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม
ต่อมาวันที่ 2 ธ.ค.52 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งว่า บางโครงการหรือกิจกรรมไม่น่าจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงอย่างชัดเจน แต่เป็นโครงการหรือกิจกรรมที่มุ่งควบคุมหรือบำบัดมลพิษหรือติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเท่านั้น จึงยังไม่สมควรที่จะมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา รวม 11 โครงการหรือกิจกรรมประเภทอุตสาหกรรม จากทั้งหมด 76 โครงการ
ส่วนโครงการหรือกิจกรรมที่เหลือนั้น เมื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ตามประกาศของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 เรื่องโครงการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับการอุตสาหกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ลงวันที่ 14 ก.ย.52 ได้กำหนดไว้ 8 ประเภทโครงการหรือกิจกรรมที่รุนแรง และตามร่างประเภทโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพที่ได้กำหนดไว้ 19 ประเภทโครงการ ซึ่งได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมาแล้วและเป็นโครงการหรือกิจกรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐได้กำหนดให้เป็นโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงนั้น
โครงการหรือกิจกรรมที่เหลือนั้น ประกอบด้วย โครงการปิโตรเคมีและท่อส่ง โครงการเหล็ก นิคมอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ท่าเทียบเรือโรงไฟฟ้าโรงบำบัดกำจัดของเสียอันตรายจากอุตสาหกรรมเป็นประเภทโครงการหรือกิจกรรมที่กำหนดไว้ในประกาศดังกล่าว น่าเชื่อว่าเป็นโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ แต่ถ้าโครงการหรือกิจกรรมดังกล่าวได้ดำเนินการให้ครบถ้วนตามมาตรา 67 วรรคสองของรัฐธรรมนูญปี 50 แล้ว ผู้ถูกฟ้องคดีหรือผู้มีส่วนได้เสียอาจมีคำขอต่อศาลที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาให้มีคำสั่งแก้ไขหรือยกเลิกวิธีการชั่วคราวได้