ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐเดือนพ.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 0.5% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เช่นเดียวกับรายได้ส่วนบุคคลที่ขยายตัวขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้านี้ด้วยตัวเลขค่าจ้างแรงงานและเงินเดือนที่อยู่ในระดับ 1.61 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังอัตราว่างงานเดือนพ.ย.ปรับตัวลดลง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยบ่งชี้เศรษฐกิจที่สำคัญถึง 70% ของระบบเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ต่อจากเดือนต.ค.ที่ขยายตัวได้ 0.7%
ทั้งนี้ ชาวอเมริกาเริ่มเก็บออมกันมากขึ้น นับตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตการเงิน ส่งผลให้ยอดการออมเงินส่วนบุคคลขยายตัวแตะ 5.251 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.จากระดับ 5.167 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. และรายได้ส่วนบุคคลสุทธิเพิ่มขึ้น 4.7%
รัฐบาลสหรัฐรายงานว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการทบทวนรอบสุดท้ายขยายตัวขึ้น 2.2% ในไตรมาส 3 ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ 1.3% แต่ยังคงเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า จุดต่ำสุดของวิกฤตการณ์ต่างๆได้ผ่านพ้นไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์วิตกกังวลว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะหยุดชะงักหากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเริ่มหมดอายุลง ขณะที่อัตราว่างงานยังคงทรงตัวในระดับสูง และประเทศยังต้องแบกรับหนี้สินอยู่มหาศาล ขณะที่สถานการณ์ในตลาดสินเชื่อยังคงตึงตัว สำนักข่าวซินหัวรายงาน