นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยผลงานเด่น 4 ด้านในรอบ 1 ปี ของกระทรวงคมนาคมว่า ประกอบด้วย การขนส่งทางบก, การขนส่งทางอากาศ, การขนส่งทางน้ำ และการพัฒนาระบบราง โดยผลงานสำคัญ คือ การกระจายความเจริญไปสู่ชนบทภายใต้โครงการถนนไร้ฝุ่น ระยะทาง 7,213 กม. วงเงิน 15,032 ล้านบาท ของกรมทางหลวงชนบท โครงการนี้จ้างงานได้ปีละ 75,425 คน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสาธารณสุขได้ปีละ 681.1 ล้านบาท และประหยัดค่าซ่อมบำรุงรถและการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ปีละ 968.9 ล้านบาท
ส่วนผลงานด้านขนส่งทางอากาศ คือ การฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย(THAI) ปีที่ผ่านมาขาดทุนสูงถึง 2.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูกิจการ โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ทำมาตรการต่างๆ เช่น การย้ายเที่ยวบินในประเทศจากท่าอากาศยานดอนเมืองกลับมาให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การกำหนดมาตรการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ ส่งผลให้การบินไทยไม่ขาดทุนในปี 2552
"ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ปีนี้การบินไทยจะไม่ขาดทุนแน่นอน ผลประกอบการจะเป็นบวก ถือเป็นความสำเร็จเรื่องหนึ่งจากปีที่ผ่านมาขาดทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 53 การบินไทยตั้งเป้าหมายจะมีกำไรสุทธิกว่า 4 พันล้านบาท" นายโสภณ กล่าว
กระทรวงคมนาคมยังได้สร้างความเชื่อมั่นการใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังเหตุการณ์ปิดล้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในช่วงปลายปี 51 ส่งผลให้ปัจจุบันสายการบินและผู้โดยสารเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
สำหรับการพัฒนาระบบรางที่สำคัญคือ การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง(ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ) ระยะทาง 23 กม. วงเงินค่างานโยธา 3.6 หมื่นล้านบาทนั้น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้เซ็นสัญญาว่าจ้างกลุ่มซีเคทีซี จอยท์เวนเจอร์ ให้ก่อสร้างงานสัญญาที่ 1 หรือโครงสร้างยกระดับส่วนตะวันออก วงเงิน 14,292 ล้านบาทไปแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าภายปีนี้ รฟม.จะเซ็นสัญญาว่าจ้าง บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC) ให้ก่อสร้างงานสัญญาที่ 2 หรือโครงสร้างยกระดับส่วนตะวันตก วงเงิน 13,100 ล้านบาท และว่าจ้างกลุ่มบริษัทพีเออาร์ จอยท์เวนเจอร์ ให้ก่อสร้างงานสัญญาที่ 3 หรือศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถ วงเงิน 5,025 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเริ่มต้นก่อสร้างในปี 53 แน่นอน
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ วงเงินค่างานโยธา 5.2 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างกำหนดราคากลาง