นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอถึงมาตรการและแนวทางในการเร่งรัดการใช้จ่ายเงินในโครงการลงทุนภายใต้แผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง วงเงินประมาณ 1.5 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเสนอ 5 มาตรการ คือ 1. กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่าย ต้องไม่ต่ำกว่า 100% ของวงเงินตามแผนที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการในปีงบประมาณ 53
2.กำหนดให้แต่ละหน่วยงานต้องจัดส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงิน ให้แล้วเสร็จภายใน 23 ก.พ.53 เพื่อที่สำนักงบประมาณจะดำเนินการอนุมัติภายในเวลา 15 วัน และหลังจากได้อรับอนุมัติแล้วหน่วยงานจะต้องลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จใน 8 เม.ย. 53
3.กำหนดให้แต่ละหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณในโครงการลงทุนตามแผนไทยเข้มแข็งจะต้องรายงานผลความก้าวหน้าตามแผนงานเป็นรายเดือน และรายไตรมาส เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ
4. ให้นำอัตราการเบิกจ่ายเงินของโครงการลงทุนภายใต้แผนไทยเข้มแข็งตามเป้าหมายที่ครม.กำหนดเป็นตัวชี้วัดในคำรับรองการปฏิบัติราชการของหน่วยงาน
5.ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดปฏิบัติตามแผนในการใช้จ่ายเงินอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้รายงานผลการเบิกจ่ายเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนฯ ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึง 23 ธ.ค. 52 พบว่ามีการเบิกจ่ายเงินไปแล้วทั้งสิ้น 24,132 ล้านบาท คิดเป็น 18.51% ของจำนวนเงินทีได้รับการจัดสรร 1.3 แสนล้านบาท