ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กวันสุดท้ายของปี 2552 เมื่อคืนนี้ (31 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2551 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มสดใสในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ รวมถึงยูโรและปอนด์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวจะทำให้รัฐบาลสหรัฐถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้า
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.62% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 93.030 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 92.460 เยน/ดอลลาร์ แต่ขยับลง 0.06% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4324 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4332 ยูโร/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.15% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0350 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.0366 ฟรังค์/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.61% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6167 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6069 ปอนด์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.44% แตะที่ 0.8980 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.8941 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.55% แตะที่ 0.7258 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7218 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเงินเยนเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงลง 28,000 คน แตะระดับ 452,000 คนในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งลดลงมากว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ระดับ 470,000 คน และบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ รวมถึงยูโรและปอนด์ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณการฟื้นฟูจะทำให้รัฐบาลสหรัฐถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้
กระแสความวิตกกังวลเรื่องการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดขึ้นนับตั้งแต่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดออกแถลงการณ์ว่า เฟดจะค่อยๆชะลอการเข้าซื้อหลักทรัพย์และตราสารหนี้ ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล วงเงินรวม 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ โดยจะปล่อยให้ธุรกรรมดังกล่าวหมดอายุลงในไตรมาสแรกของปี 2553
ธนาคารบาร์เคลยส์คาดการณ์ว่า การฟื้นตัวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอาจสิ้นสุดลงในช่วงกลางปี 2553 เนื่องจากธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกหลีกเลี่ยงการเพิ่มสกุลเงินดอลลาร์ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และจากแนวโน้มที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ช้ากว่าที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
ดัชนี US Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับยูโร เยน ปอนด์ ดอลลาร์แคนาดา ฟรังค์สวิส และโครนาสวีเดน ดิ่งลง 4.2% ในปี 2552
ตลาดเงินนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 1 ม.ค.2553 เนื่องในวันปีใหม่