นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการภาษีสำหรับการวางหลักทรัพย์เป็นประกันการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร โดยกฎหมายดังกล่าวจะยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ลูกค้าตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (โบรกเกอร์) สำนักหักบัญชี
สำหรับเงินได้ที่เกิดจากการโอนและรับโอนซึ่งหลักทรัพย์ที่เป็นประกันในการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในกรณีที่ลูกเป็นห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ และมิได้ประกอบกิจการในประเทศหากได้รับเงินชดเชย เงินปันผล หรือเงินชดเชยดอกเบี้ยจากหลักทรัพย์ที่เป็นประกันในการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ต้องยอมให้ผู้จ่ายเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 10 ของเงินชดเชยเงินปันผลที่ได้รับ หรือในอัตราร้อยละ 15 ของเงินชดเชยดอกเบี้ยที่ได้รับจึงจะได้รับยกเว้นภาษี
เงื่อนไขต่อมา ลูกค้าซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดายอมให้ผู้จ่ายเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 10 ของเงินชดเชยเงินปันผลที่ได้รับ หรือในอัตราร้อยละ 15 ของเงินชดเชยดอกเบี้ยที่ได้รับเมื่อถึงกำหนดยื่นรายการให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำเงินชดเชยเงินปันผลหรือเงินชดเชยดอกเบี้ยดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินปันผลที่ได้จากบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือเงินส่วนแบ่งกำไรที่ได้จากกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ให้ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะอากรแสตมป์สำหรับรายรับหรือการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการโอน หรือรับโอนซึ่งหลักทรัพย์ที่เป็นหลักประกันในการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้แก่ลูกค้า ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สำนักหักบัญชีแล้วแต่กรณี