ออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ประจำปี 2552 ของสหรัฐ ร่วงลงมากกว่า 20% แตะที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.43 ล้านคัน ซึ่งน้อยกว่ายอดขายรถยนต์ในจีนที่ระดับ 12.23 ล้านคันในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย.2552 ซึ่งหนุนให้จีนก้าวขึ้นเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกเป็นครั้งแรก
รายงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงจุดพลิกผันของประวัติศาสตร์รถยนต์โลก ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ผลิตรถยนต์กลุ่มบิ๊กทรีของสหรัฐเคยทำให้สหรัฐเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ออโต้ดาต้าระบุว่า ยอดขายรถยนต์ของบริษัททุกแห่งที่เข้าไปตั้งฐานการผลิตในสหรัฐมีอยู่ทั้งสิ้น 10,429,553 คันในปี 2552 ลดลง 2.8 ล้านคัน หรือ 21.2% จากปี 2551 และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2525 เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐถูกกระทบอย่างหนักจากเศรษฐกิจโลกถดถอย และวิกฤตการณ์การเงินโลกที่ส่งผลให้เลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลายในเวลาต่อมา นอกจากนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐยังได้รับผลกระทบจากปัญหาด้านการเงินที่เกิดขึ้นกับริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ คอร์ป จนเป็นเหตุให้ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 ต้องยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากศาลล้มละลายของสหรัฐในปีที่แล้ว
แม้ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหรัฐอยู่ในระดับสูงกว่า 16 ล้านคันมาเป็นเวลา 6 ปีติดต่อกันจนถึงปี 2550 แต่ยอดขายโดยรวมก็ทรุดตัวลงเกือบ 2 ล้านคันในปี 2552 อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดขายรถยนต์ในสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 11 ล้านคันในปี 2553
หากแยกยอดขายรถยนต์ในแต่ละค่ายพบว่า ยอดขายรถยนต์ของจีเอ็มลดลง 29.7% แตะที่ 2,063,069 คัน ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักสุดเมื่อเทียบกับค่ายรถยนต์รายอื่นๆที่เข้าไปตั้งฐานการผลิตในสหรัฐ รองลงมาคือโตโยต้า มอเตอร์ ที่มียอดขายลดลง 20.2% หรือลดลง 447,500 คัน แตะที่ 1,770,149 คัน นับเป็นปีที่ 2 ที่โตโยต้ามียอดขายลดลง และยอดขายจากค่ายฟอร์ด มอเตอร์ ลดลงเหลือเพียง 1,615,799 คัน
ฮอนด้า มอเตอร์ เข้าป้ายอันดับ 4 ด้วยยอดขายที่ลดลง 19.5% แตะที่ 1,150,784 คัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ฮอนด้ามียอดขายน้อยกว่าบริษัทรถยนต์ค่ายบิ๊กทรีในสหรัฐ ตามด้วยไครสเลอร์ที่มียอดขายร่วงลงหนักสุด 35.9% แตะที่ 931,402 คัน
จากคำนวณยอดขายรถยนต์ของกลุ่มบิ๊กทรีรวมกัน พบว่า ยอดขายในปี 2552 ดิ่งลง 26.8% แตะที่ 4,610,279 คัน ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของกลุ่มบิ๊กทรีหดตัวลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 44.2% จากระดับ 47.5% ในปี 2551
ส่วนยอดขายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นนั้น ยอดขายของนิสสัน มอเตอร์ ลดลง 19.1% แตะที่ 770,103 คัน ยอดขายของมาสด้า มอเตอร์ ดิ่งลง 21.3% แตะที่ 207,767 คัน, ยอดขายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ร่วงลง 44.5% แตะที่ 53,986 คัน และยอดขายของซูซูกิ มอเตอร์ส ดิ่งลง 54.5% แตะที่ 38,695 คัน อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์จากค่ายฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ ดีดตัวขึ้น 15.4% แตะที่ 216,652 คัน
หากพิจารณาเฉพาะในเดือนธ.ค.เพียงเดือนเดียว ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 15.1% แตะที่ 1,029,936 คัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน