นางเสาวนีย์ กมลบุตร รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารทหารไทย(TMB)เปิดเผยว่า ในปี 53 ธนาคารตั้งเป้าหมายสร้างผลกำไรประมาณ 2,400-2,500 ล้านบาท จากปี 52 ที่คาดว่ามีจะกำไรในระดับ 1,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากการดำเนินงานของธนาคารปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาส 4/52 การปล่อยสินเชื่อปรับตัวดีขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในปี 52 ธนาคารอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กรและวางแผนการบริหารสินเชื่อ เพื่อกำหนดมาตรฐานการปล่อยสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ ประกอบกับ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้การปล่อยสินเชื่อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ในปี 53 ธนาคารพร้อมปล่อยสินเชื่ออย่างเต็มที่แล้ว โดยจะเน้นการปล่อยสินเชื่อทั้ง SMEs ลูกค้ารายย่อย และ ลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งจะเน้นที่คุณภาพของสินเชื่อมากกว่าการสร้างผลตอบแทนที่สูง
นอกจากนี้ การให้บริการของธนาคารจะคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และจากการปรับภาพลักษณ์ของธนาคาร เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น และจะเป็นผลดีต่อการดำเนินงานของธนาคารและส่งผลต่อราคาหุ้นปรับดีขึ้นด้วย
"ตอนนี้เรากำลังดีขึ้น หลังการปรับโครงสร้างการบริหารงาน มีการออก product ใหม่ๆ เพื่อ service ลูกค้าในทุกกลุ่ม...จากการทำ survey ภาพลักษณ์ของเรากำลังดีขึ้นจากเดิมที่มองเป็นแบงก์ราชการ แต่ตอนนี้เราดีขึ้น" ประธานกรรมการ TMB กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
*ยอมรับใช้แนวทางลดพาร์ล้างขาดทุนสะสม หวังจ่ายปันผลกลางปี
นางเสาวนีย์ กล่าวว่า ธนาคารมีแนวทางที่จะลดมูลค่าที่ตราไว้(พาร์)ปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 10 บาท หลังจากที่กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ใช้สิทธิแปลงหุ้นบุริมสิทธิ เป็นหุ้นสามัญตามกำหนดในเดือน พ.ค.53 เพื่อล้างขาดทุนสะสม และคาดว่ากลางปีนี้จะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี
ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างให้ที่ปรึกษาทางการเงินและที่ปรึกษาทางกฎหมายดำเนินการเพื่อวางแนวทางการลดพาร์ และแผนการล้างขาดทุนสะสม ก่อนที่จะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาต่อไป
"ตอนนี้เรายังไม่ได้เสนอเรื่องแผนการลดพาร์ให้กระทรวงการคลังพิจารณา เพราะต้องรอผลจากที่ปรึกษาก่อน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้เสนอมาว่าจะลดพาร์จาก 10 บาท เหลือเท่าไร จึงยังไม่สามารถบอกได้"นางเสาวนีย์ กล่าว
อนึ่ง รายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่าธนาคารจะเสนอให้ลดพาร์เหลือ 3 บาท