นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรคกูเรเตอร์) ระบุว่า ขณะนี้ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อพิจารณาเรื่องการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าทั้งระบบ คาดว่าจะเสร็จและเริ่มใช้ในปี 54 โดยจะทำให้โครงสร้างค่า FT มีความชัดเจนและมีความเป็นธรรมมากขึ้น โดยจะเหลือเฉพาะต้นทุนเชื้อเพลิงและอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนเรื่องการซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าภาคเอกชนขนาดใหญ่(IPP) รวมถึงเรื่องการจัดเก็บเงินกองทุนพัฒนารอบโรงไฟฟ้ารวมถึงการประมาณการเรื่องปริมาณผู้ใช้ไฟฟ้าคงต้องมีการแยกออกมา
นอกจากนี้ เรคกูเรเตอร์อยู่ระหว่างการหารือและรับฟังความคิดเห็นร่างระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามมาตรา 97 (3) ร่างที่ 1 โดยจะรับฟังความเห็นจากทั่วประเทศและปรับปรุงใหม่ เช่น ยกเลิกการกำหนดรัศมีการดูแลประชาชนจากเดิม 5 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้า โดยจะเปลี่ยนเป็นการให้คณะกรรมการในพื้นที่กำหนดแทน
นายดิเรก กล่าวด้วยว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าในปีนี้จะมีต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันและราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า แต่เรคกูเรเตอร์ยังมีมติทำตามข้อเสนอของรัฐบาลที่ตรึงค่า FT ไปจนถึงเดือนส.ค.นี้ ทำให้ผลกระทบอาจจะตกไปอยู่กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่ยังแบกภาระแทนประชาชนในเรื่องการตรึงค่า FT ที่มีต้นทุนตรึงไว้ตั้งแต่ปลายปี 50 ที่เหลือยอดหนี้ปัจจุบันประมาณ 15,000 ล้านบาท จากวงเงินเต็มที่ 20,000 ล้านบาท และยังมีภาระค่าดอกเบี้ยอีก 2,000 ล้านบาท