ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร, ปอนด์ และสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ที่บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการเพิ่มวงเงินซื้อหลักทรัพย์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.33% เมื่อเทียบกับยุโรที่ระดับ 1.4415 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4368 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.60% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0273 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0335 ฟรังค์/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.18% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6024 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.5995 ปอนด์/ดอลลาร์ แต่พุ่งขึ้น 0.68% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 92.340 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 91.720 เยน/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.97% แตะที่ 0.9205 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.9117 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.49% แตะที่ 0.7379 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7343 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันหลังจากเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการเพิ่มวงเงินซื้อหลักทรัพย์
ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 84,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 73,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าในเดือนพ.ย.ที่บ่งชี้ว่าภาคเอกชนลดการจ้างงานลงจำนวนมากถึง 145,000 ตำแหน่ง
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการเพิ่มขึ้นแตะระดับ 50.1 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคบริการมีการขยายตัว
ขณะที่ ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 84,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งน้อยกว่าในเดือนพ.ย.ที่ลดการจ้างงานลง 145,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนลดการจ้างงานในเดือนธ.ค.มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 73,000 ตำแหน่ง
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการเพิ่มขึ้นแตะระดับ 50.1 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคบริการมีการขยายตัว อย่างไรก็ตาม ดัชนีภาคบริการปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า อัตราว่างงานเดือนธ.ค.ปี 2552 ของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 10.1% จากเดือนพ.ย.ที่ 10%
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payrolls) ประจำเดือนธ.ค.อาจลดลงเพียง 1,000 ราย ซึ่งจะเป็นสถิติที่ลดลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพราะได้แรงหนุนจากภาคอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว