รายงานการประชุมชี้ FED กังวลตัวเลขว่างงานอ่อนแอถ่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 7, 2010 10:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.ปี 2552 ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงฟื้นตัว แต่คณะกรรมการเฟดหลายคนได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐ

รายงานการประชุมของเฟดระบุว่า นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด และคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด มีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยเฟดระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะยอดขายบ้านที่เพิ่มขึ้น และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ขยายตัวขึ้นปานกลาง

นอกจากนี้ เฟดกล่าวว่าภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และล่าสุดดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐเดือนธ.ค.ขยายตัวขึ้นแตะ 55.9 จุด จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 53.6 จุด

อย่างไรก็ตาม เฟดระบุว่าตัวเลขจ้างงานในสหรัฐยังคงติดลบ และภาวะในตลาดแรงงานยังคงตึงตัว ซึ่งเป็นผลมาจากภาคธุรกิจยังคงลดการจ้างงานและการลงทุน สถานการณ์ดังกล่าวจะขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและยิ่งทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคอ่อนแอลง เนื่องจากอัตราว่างงานที่สูงขึ้นจะทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายและอดออมมากขึ้น

ทั้งนี้ เฟดกล่าวว่า แม้เศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพ แต่ตัวเลขเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำและอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการเฟดจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 0 - 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีพ.ศ.2552 พร้อมระบุว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน โดยอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากการกู้ยืมระหว่างกัน

นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดยังหารือกันเรื่องมาตรการเข้าซื้อหลักทรัพย์ โดยในการประชุมครั้งนี้เฟดออกแถลงการณ์ว่ายังคงนโยบายการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล รวมถึงแฟนนี เม และเฟรดดี แมค วงเงินรวม 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ และจะเข้าซื้อตราสารหนี้ของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นวงเงิน 1.75 แสน

อย่างไรก็ตาม เฟดกล่าวว่า จะชะลอการเข้าซื้อหลักทรัพย์และตราสารหนี้ และจะปล่อยให้นโยบายดังกล่าวหมดอายุลงในไตรมาสแรกปี 2553 รวมทั้งจะเริ่มปิดวงเงินสว็อปสภาพคล่องภายในวันที่ 1 ก.พ.และลดวงเงินในโครงการ Term Auction Facility ในช่วงต้นปี 2553 ด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ