สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถูกจัดอันดับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงจะเผชิญกับปัญหาหนี้สาธารณะมากที่สุดในปีนี้ เช่นเดียวกับบาห์เรน ไอซ์แลนด์ และเลบานอน
สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างบทความของธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (RBS) ที่ระบุในนิตยสารธุรกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่า รายงานคาดการณ์ปัญหาหนี้สาธารณะนั้นพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมหลายๆด้าน เช่น สภาพคล่องในประเทศ ความสามารถในการชำระหนี้ การขยายตัวของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ ตัวเลขเงินเฟ้อ และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
โดยทิโมธี แอช ประธานฝ่ายวิจัยของยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาของ RBS กล่าวว่า วงเงินกู้ยืมจากต่างประเทศในระดับสูงเมื่อช่วงที่ผ่านมาเป็นเหตุผลที่ทำให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถูกจัดอันดับเป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการเผชิญปัญหาหนี้สินในปีนี้
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังระบุว่า สถานการณ์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากดูไบยังคงเผชิญกับความผันผวน อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอาบูดาบียังคงมีแหล่งทรัพยากรมากพอที่จะช่วยหนุนข้อกำกับดูแลด้านอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดีแรห์มได้
ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา วิกฤตการณ์ในดูไบได้จุดกระแสตื่นตระหนกในตลาดโลกหลังจากที่ดูไบ เวิลด์ ได้ประกาศเลื่อนนัดชำระหนี้ออกไปอย่างน้อย 6 เดือน ก่อนที่จะปรับโครงสร้างการดำเนินงานในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนระบุว่า RBS เป็นธนาคารรายใหญ่สุดของอังกฤษที่ปล่อยเงินกู้ให้กับดูไบเวิลด์เป็นเงิน 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 17% ของเงินกู้ที่ดูไบเวิลด์ได้รับนับตั้งแต่เดือนม.ค.2550