ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร หลังข้อมูลชี้เศรษฐกิจยุโรปอ่อนแอ

ข่าวต่างประเทศ Friday January 8, 2010 07:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) หลังจากมีรายงานบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในยุโรปอ่อนแอลง ขณะที่เงินเยนร่วงลงอย่างหนักหลังจากรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ว่าต้องการให้เงินเยนอ่อนค่าลงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านการส่งออก ส่วนค่าเงินปอนด์ร่วงลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศคงดอกเบี้ยและคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมเมื่อวานนี้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4316 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4412 ยูโร/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 1.01% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 93.270 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 92.340 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้น 0.56% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0333 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.0275 ฟรังค์/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.55% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.5935 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6023 ปอนด์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.33% แตะที่ 0.9171 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.9201 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.75% แตะที่ 0.7324 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7379 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักวิเคราะห์จาก FXSolutions กล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า ยอดค้าปลีกใน 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวลดลง 1.2% ซึ่งผิดความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ประเมินว่าจะขยายตัวขึ้นอีก และเป็นการลดทอนความหวังที่ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะช่วยขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต

ขณะที่เงินเยนดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากนายนาโอโตะ คัง รมว.คลังคนใหม่ของญี่ปุ่น ออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ว่า เขาต้องการให้สกุลเงินเยนอ่อนตัวลงต่ำกว่าในระดับปัจจุบันเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจและภาคส่งออกให้ฟื้นตัวขึ้น พร้อมกับยืนยันว่าจะร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เพื่อผลักดันสกุลเงินเยนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

ส่วนเงินปอนด์ร่วงลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุด 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการตรึงดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 และไม่เปลี่ยนแปลงโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มูลค่า 2 แสนล้านปอนด์ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าแบงก์ชาติอังกฤษจะคงนโยบายเช่นนี้ต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงเดือนหน้า เพื่อรอดูหลักฐานที่ชัดเจนกว่านี้เกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลการจ้างงานเดือนธ.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าอัตราว่างงานเดือนธ.ค.ปี 2552 ของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 10.1% จากเดือนพ.ย.ที่ 10% อย่างไรก็ตาม คาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.อาจลดลงเพียง 1,000 ราย ซึ่งจะเป็นสถิติที่ลดลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ