ธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณใช้มาตรการสกัดเงินเฟ้อ หลังทำเซอร์ไพรซ์ขึ้นดอกเบี้ยตั๋วเงินคลัง

ข่าวต่างประเทศ Friday January 8, 2010 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางจีนเริ่มเดินหน้าใช้นโยบายการเงินเพื่อสกัดกั้นภาวะเงินเฟ้อด้านสินทรัพย์ ด้วยการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังระยะ 3 เดือนเป็น 1.3684% เพิ่มขึ้น 0.04% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยกระแสความวิตกกังวลในเรื่องเงินเฟ้อมีขึ้นนับตั้งแต่ธนาคารพาณิชย์ของจีนปล่อยวงเงินกู้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า การตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางจีนพร้อมที่จะดำเนินมาตรการที่แข็งกร้าวกว่านี้ในการชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจและควบคุมเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์จากมูดีส์ อิโคโนมี กล่าวว่า ธนาคารกลางจีนตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท 1 ปีไว้ที่ 5.31% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี หลังจากได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว 5 ครั้ง นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังเปิดทางให้ธนาคารพาณิชย์ในประเทศปล่อยเงินกู้เป็นวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9.21 ล้านล้านหยวน หรือ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าการที่ธนาคารกลางจีนสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังระยะ 3 เดือนในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะใช้นโยบายการเงินเป็นเครื่องมือควบคุมเงินเฟ้อและสกัดกั้นภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์

การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังของธนาคารกลางจีนในครั้งนี้ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่เทรดเดอร์ว่า ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นอาจทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนอ่อนแอลง แม้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 9% ในปีนี้ จากปีที่แล้วที่ระดับ 8.5%

หนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานในวันนี้ว่า จีนอาจจะชะลอการปล่อยวงเงินกู้ให้เหลือเพียง 7.5 ล้านล้านหยวนในปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางจะระบายเม็ดเงินจำนวน 1.37 แสนล้านหยวนออกจากตลาดการเงินภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการระบายเม็ดเงินออกมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.2552


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ