กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,000 คน แตะระดับ 434,000 คน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 447,000 คน และบ่งชี้ว่านายจ้างเริ่มชะลอการปลดพนักงานในองค์กร
ขณะเดียวกัน ยอดผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานแบบต่อเนื่องปรับตัวลดลง 179,000 คนแตะที่ 4.8 ล้านคน แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่นับรวมยอดผู้ตกงานที่ได้รับเงินช่วยเหลือภายใต้โครงการของรัฐอีก 5.4 ล้านคน
นักวิเคราะห์กำลังจับตาการรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานอย่างใกล้ชิด ด้วยมองว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้สถานการณ์ในตลาดแรงงานและสะท้อนถึงความต้องการจ้างพนักงานใหม่ของบริษัทต่างๆ ซึ่งการจ้างงานนั้นมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นรายได้ของประชาชนอันจะหนุนให้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นและกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานของสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานเดือนธ.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานจะขยายตัวแตะระดับ 10.1% จากระดับ 10% และนายจ้างจะปรับลดพนักงานลง 8,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐทำสถิติลดลง 19% นับตั้งแต่เดือนต.ค. หรือลดลงไปแล้ว 100,000 คน