นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการ AFTA Hotline 1385 หลังจากที่ไทยมีพันธกรณีภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน(AFTA) ในการลดภาษีสินค้าทุกรายการทั้งเกษตรและอุตสาหกรรมให้เหลือ 0% และยกเลิกมาตรการโควตาภาษี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.53
สำหรับศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าว ประกอบด้วย 4 กลุ่มงานสำคัญ คือ กลุ่มสายด่วน AFTA ทำหน้าที่ตอบคำถามและรับฟังปัญหา ข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับ AFTA และการเปิดตลาด, กลุ่มติดตามและประเมินสถานการณ์ ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์การนำเข้า-ส่งออก เพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันกับเหตุการณ์, กลุ่มให้คำปรึกษาสัญจร เป็นหน่วยเคลื่อนที่ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและให้คำปรึกษากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มมาตรการช่วยเหลือ โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากความตกลง ตลอดจนการเยียวยาผลกระทบและใช้มาตรการช่วยเหลือต่างๆ
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การเปิดตลาดภายใต้ AFTA ถือเป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างสมาชิกอาเซียนย่อมมีทั้งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการค้าและการลงทุนของไทย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า แน่นอนว่าไทยจะได้ประโยชน์จากขนาดตลาดที่ใหญ่ขึ้น มีโอกาสในการขยายการค้า การลงทุนระหว่างประเทศสมาชิก ASEAN เห็นได้จากมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับประเทศสมาชิก ASEAN ในปี 52 มีมูลค่าประมาณ 51,590 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 20.05% ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย และถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย
"ผลกระทบจากการปฏิบัติตามพันธกรณีดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนก็มิได้นิ่งนอนใจ โดยได้มีการหารือเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติงาน รวมทั้งกำหนดมาตรการรองรับการเปิดตลาดภายใต้ AFTA เพื่อปกป้องผลประโยชน์ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน" รมว.พาณิชย์ กล่าว
นอกจากการเตรียมความพร้อมแล้ว เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลดความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการ ซึ่งกระทรวงฯ ได้วางมาตรการทั้งในเชิงรุกและเชิงรับอย่างเป็นระบบครบวงจร ได้แก่ 1.จัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการกำกับดูแลและป้องกันผลกระทบจากการเปิดเสรี AFTA โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน 2. มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ AFTA Hotline 1385
3. กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศจะจัดสัมมนาใหญ่ประมาณกลางเดือนก.พ.53 และเดินสายทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากความตกลง AFTA ให้มากที่สุด พร้อมทั้งติดตามผลและรับฟังความเห็นของประชาชนอย่างต่อเนื่อง 4. กระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งคณะกรรมการฯ จะลงพื้นที่ออกตรวจตราการทำงานที่ด่านนำเข้าอย่างต่อเนื่องเพื่อรับฟังปัญหาและแก้ไขให้ทันท่วงที