นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านการผลิตภายใต้คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังได้พิจารณาเห็นชอบในกรอบร่างยุทธศาสตร์มันสำปะหลังปี 2554—2557 ซึ่งประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ ยุทธศาสตร์การเพิ่มผลผลิตและคุณค่าผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเน้นในเรื่องการจัดทำระบบทะเบียนเกษตรกรที่ถูกต้อง การเร่งรัดการเพิ่มผลผลิตในพื้นที่ที่เหมาะสม รวมถึงการสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
ยุทธศาสตร์การเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด เช่น ส่งเสริมการผลิตและการใช้ในประเทศให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดเสถียรภาพในด้านราคาและพัฒนาคุณภาพการผลิตให้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันไทยมีการส่งออกถึง 80% และการสนับสนุนระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ
และยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาบุคลากร ทั้งในเรื่องการปรับปรุงพันธุ์ การป้องกันและกำจัดโรคแมลง และการวิจัยผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่มีผลต่อการผลิต
ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายที่จะคงพื้นที่เพาะปลูกจำนวน 7.4 ล้านไร่ และมีผลผลิตต่อไร่เฉลี่ยทั่วประเทศจำนวน 5.0 ตัน ซึ่งจะส่งผลทำให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดิม 46,000 ล้านบาท เป็น 55,000 ล้านบาทในปี 2557
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ จะเสนอกรอบร่างยุทธศาสตร์มันสำปะหลังปี 2554—2557 เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายสำปะหลังพิจาณาโดยเร็วต่อไป
สำหรับสถานการณ์แนวโน้มราคามันปะหลังขณะนี้นั้น คาดว่าจะมีราคาที่สูงขึ้น เนื่องจากตลาดส่งออกคาดว่าจะมีปริมาณความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศผู้ผลิตกลุ่มธัญพืชส่วนใหญ่กำลังประสบปัญหาภัยธรรมชาติ เช่น ประเทศจีน ที่คาดว่าผลผลิตข้าวโพดจะลดลงและมีการนำเข้ามันเส้นจากประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องทำให้ราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรผู้ปลูกมันขายได้ดีขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรติดตามสถานการณ์ด้านราคาอย่างใกล้ชิดเช่นกัน" นายธีระ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กระทรวงเกษตรฯ อยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการขณะนี้เพื่อป้องกันผลกระทบปริมาณผลผลิตมันที่ลดลง คือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเพลี้ยแป้ง ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะลดลงจาก 27 ล้านตัน เหลือ 25 ล้านตันนั้น ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้กำหนดแผนดำเนินงานตามที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก ครม.แล้วจำนวนประมาณ 65 ล้านบาท เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเพลี้ยแป้ง
โดยจะมีบูรณการการทำงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เป้าหมาย 6 แสนไร่ ใน 20 จังหวัดที่มีการระบาดรุนแรง และมาตรการที่สำคัญอย่างหนึ่งที่กระทรวงเกษตรฯได้เตรียมการไว้คือ การจัดเตรียมแหล่งพื้นที่ปลูกมันที่ไม่พบการระบาดของเพลี้ยแป้ง โดยจะทำการชุบน้ำยาท่อนพันธุ์ปลอดเชื้อ และประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับทราบก่อนซื้อท่อนพันธุ์มันไปปลูก ซึ่งจะเป็นการตัดตอนวงจรการแพร่ระบาดได้ทางหนึ่ง