นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย(ทีทีอาร์) เปิดเผยว่า เตรียมนำคณะนักธุรกิจจากสมาคมอัญมณีและเครื่องประดับไทยและที่เกี่ยวข้องรวม 71 แห่ง เดินทางไปประเทศอิตาลีในระหว่างวันที่ 13-21 ม.ค.นี้ เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งเป็นงานใหญ่เป็นดับดับ 1 ของโลก เพื่อเพิ่มช่องทางการค้าการลงทุน และจะลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่างสมาคมอัญมณีของอิตาลีและสมาคมอัญมณีฯ ของไทย เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น
"มั่นใจว่าการร่วมเดินทางในครั้งนี้ จะยิ่งเพิ่มพลังให้กับอุตสาหกรรมไทยมากขึ้น จากเดิมที่ต่างคนต่างไปร่วมงานในลักษณะเบี้ยหัวแตกทำให้ไม่มีพลัง โดยเฉพาะเมื่อข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียนมีผลบังคับใช้ยิ่งทำให้ไทยได้รับความสนใจมากขึ้น" นายวัชระ กล่าว
ทั้งนี้ จากการตั้งเป้าหมายให้อิตาลีเป็นประตูการค้าไปสู่ประเทศยุโรป ดังนั้นจึงจะมีการรื้อฟื้นสัญญาที่ได้ลงนามร่วมกันไปก่อนหน้านี้ 4-5 ฉบับว่ามีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใด หากไม่คืบหน้าต้องนำกลับมาหารือและวางกรอบแนวทางร่วมกันเพื่อร่วมมือกันพัฒนาธุรกิจนี้ต่อไป โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเทคนิคการผลิต, ความร่วมมือด้านการดำเนินการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก(SMEs) ซึ่งต้องยอมรับว่าชิ้นงานการขึ้นรูปของอิตาลีมีเทคโนโลยีที่ดีมากโดย
นายวัชระ กล่าวว่า จะหารือร่วมกับ รมต.การค้าการลงทุนของอิตาลี เพื่อขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกและดูแลภาคเอกชนของไทยให้มากขึ้นทั้งการนำเข้าสินค้า การใช้มาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ โดยเชื่อว่าหากทั้ง 2 ประเทศมีความร่วมมือระหว่างกันจะทำให้การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ พบว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยในช่วง 11 เดือนของปี 52 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่าประมาณ 321,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35-36% จากปี 51 แต่หากไม่นับรวมทองคำที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป จะทำให้มูลค่าการส่งออกที่แท้จริงลดลง 14.10 % ทั้งนี้สมาคมส่งออกอัญมณีไทยและเครื่องประดับตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 58 จะเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้อยู่ที่ระดับ 810,000 ล้านบาท