ผู้ค้าน้ำมันทุกรายประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทุกชนิดทั้งเบนซิน และดีเซล อีกลิตรละ 60 สตางค์ ยกเว้น E85 โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.ของวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป(9 ม.ค.)
ทั้งนี้ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันตามสถานีบริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ลิตรละ 30.34 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 32.64 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 31.84 บาท, เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 36.24 บาท, ไบโอดีเซล B5 อยู่ที่ 27.19 บาท และดีเซลหมุนเร็ว B2 อยู่ที่ลิตรละ 28.59 บาท ขณะที่แก๊สโซฮอล์ E85 ยังคงอยู่ที่ลิตรละ 18.72 บาท
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน PTT กล่าวว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกในสัปดาห์นี้ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากปัจจัยสนับสนุนเดิมด้านสภาพอากาศหนาวเย็นจัดที่แผ่ปกคลุมประเทศต่างๆ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความร้อนเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันสูงขึ้นโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นสูงสุดในรอบ 14 เดือน นับจากเดือน ต.ค.51 ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ 80.68 ดอลลาร์/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซินอยู่ที่ 89.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 88.52 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยน้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน และดีเซล ได้ปรับตัวสูงขึ้นมาจากต้นสัปดาห์อีก 2.11 ดอลลาร์/บาร์เรล และ 3.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ตามลำดับ
"การปรับขึ้นราคาขายปลีกครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ม.ค.53 ยังไม่ส่งผลให้ค่าการเฉลี่ยในภาพรวมดีขึ้น เนื่องจากค่าการตลาดที่ผ่านมาในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำต่อเนื่องยาวนาน รวมถึงราคาน้ำมันตลาดโลกยังขยับตัวหนีขึ้นไปอีกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าการตลาดเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี 53 ขณะนี้เหลืออยู่เพียง 33 สตางค์/ลิตรเท่านั้น" นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวว่า ในระยะสั้นยังคงมีปัจจัยสนับสนุนที่เป็นบวกต่อราคาน้ำมัน โดยต้องติดตามสภาพอากาศ และดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขค้าส่ง สินเชื่อของผู้บริโภค และอัตราว่างงานอย่างใกล้ชิด