ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหนักสุดในรอบ 1 เดือนครึ่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) หลังจากที่สหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ร่วงหนักเกินคาด ส่งผลให้ความหวังที่ว่าอาจมีการขึ้นดอกเบี้ยในเร็ววันนี้พังทลายลง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 1.4414 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4318 ดอลลาร์/ยูโร และอ่อนค่าลงแตะ 92.680 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 93.310 เยน/ดอลลาร์
นอกจากนั้นเงินดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าสู่ระดับ 1.0233 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์ จาก 1.0334 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์ และอ่อนค่าแตะที่ระดับ 1.6029 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5933 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าแตะ 0.9241 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9164 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าแตะ 0.7366 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7318 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเงินดอลลาร์แข็งค่าเพราะนักลงทุนเชื่อว่าตัวเลขจ้างงานสหรัฐจะสดใส โดยนักวิเคราะห์บางส่วนถึงขั้นคาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีแต่แล้วกระทรวงแรงงานสหรัฐก็เปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรร่วงลงถึง 85,000 อัตรา ข้อมูลดังกล่าวทำให้มีโอกาสน้อยมากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ววันนี้ โดยเฟดระบุในรายงานการประชุมเดือนธันวาคมว่า อัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูงอาจทำให้เฟดต้องขยายขอบเขตและระยะเวลาในการเข้าซื้อสินทรัพย์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนกล่าวว่า แม้ตัวเลขจ้างงานจะออกมาน่าผิดหวัง แต่เศรษฐกิจสหรัฐก็มีการขยายตัวจริงๆ