ผู้เชี่ยวชาญหวั่นเศรษฐกิจจีนร้อนแรงถึงขีดสุดในปีนี้ ชี้อาจเผชิญความเสี่ยงในตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาวะเงินเฟ้อ แนะรัฐบาลหาแนวทางลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยเศรษฐกิจจีนอาจขยายตัวได้สูงสุดถึง 16% ในปีนี้ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และความเสี่ยงด้านภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ หากรัฐบาลยังไม่ชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สื่อจีนรายงานอ้างบทความที่เขียนโดยเจ้าหน้าที่จากสถาบันสังคมศาสตร์ของจีนว่า หากรัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาคต่อเนื่องจากปี 2552 ก็อาจทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อนแรงในปีนี้ ขณะที่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดเงินกู้ล็อตใหม่ปรับตัวสูงขึ้นด้วยอัตราการขยายตัวที่ประมาณ 1 แสนล้านหยวน/วัน เมื่อเทียบกับระดับ 2.948 แสนล้านหยวนตลอดทั้งเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศทางการค้าที่ดีดตัวแรงเกินคาดในเดือนธ.ค.อาจช่วยปูทางให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายมีช่องทางลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนหนึ่ง หลังจากที่ยอดปล่อยเงินกู้พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังระยะ 3 เดือน ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารอาจขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปีสู่ระดับ 5.85% จากระดับ 5.31% ภายในสิ้นปีนี้
ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้สำนักงานศุลกากรจีนรายงานว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนธ.ค.ขยายตัวขึ้น 17.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งนับเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี เช่นเดียวกับยอดนำเข้าสินค้าที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์