นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) คาดเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่แล้ว ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าเกษตรของไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะยางพารา ซึ่งราคาพุ่งขึ้นตามราคาน้ำมัน และข้าวเปลืออกหอมมะลิก็มีโอกาสปรับราคาขึ้นถึง กก.ละ 50 บาท ดังนั้นหากการเมืองนิ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยอาจมีโอกาสเติบโตไปถึง 10%
"เศรษฐกิจไทยยังไงปีนี้ก็ดีกว่าปีที่แล้ว ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ขอให้การเมืองนิ่งเมื่อไหร่คิดว่าเราอาจจะไปถึง 10% แต่ถ้าการเมืองไม่นิ่งก็ยังมี export เข้ามาช่วย" นายธนินท์ กล่าว
ประธานเครือ ซีพี ยังย้ำความสำคัญของแนวคิด 2 สูง เนื่องจากเห็นว่าหากราคาสินค้าเกษตรมีราคาสูง และเงินเดือนขั้นต่ำปรับตัวสูงขึ้น ก็จะช่วยให้มีกำลังซื้อในตลาดเพิ่มขึ้น และยังเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหามาบตาพุดได้ เป็นการค่อยๆปรับปรุงไป
นายธนินท์ ยังมองโอกาสไทยเป็นฐานการลงทุนที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักธุรกิจจีน หากอาเซียนเปิดเสรีการค้าเสรีการค้า(AFTA)กับจีน ยิ่งทำให้จีนต้องการเข้ามาลงทุนในไทย เพราะสามารถส่งสินค้าที่ผลิตในไทยไปขายในจีนได้โดยไม่เสียภาษีระหว่างกัน เพราะตลาดจีนใหญ่มากมีประชากรกว่า 1.3 พันล้านคนก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย
"ผมเชื่อมั่นว่านักธุรกิจจีนก็อยากลงทุนในไทย ไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนที่สุด เรามีดีหลายอย่าง"นายธนินท์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายธนินท์ ยอมรับว่าระยะแรกเราอาจเสียเปรียบในสินค้าเกษตรหากเปิดเสรีการค้ากับจีน แต่ระยะยาวจะส่งผลดีกับทุกฝ่าย