นักลงทุนเข้าทำธุรกรรมสว็อปค่าเงินหยวนมากที่สุดในรอบ 8 สัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่ายอดส่งออกของจีนเดือนธ.ค.ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนอาจปรับขึ้นค่าเงินหยวนในวันข้างหน้า
สำนักงานศุลกากรของจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค.ทะยานขึ้น 17.7% ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5% ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 55% โดยนักวิเคราะห์มองว่ายอดนำเข้าและส่งออกที่เพิ่มขึ้นของจีนบ่งชี้ถึงดีมานด์ที่แข็งแกร่งทั่วโลก และอาจทำให้จีนต้องตัดสินใจปรับขึ้นค่าเงินหยวนในที่สุด
ทั้งนี้ ณ เวลา 09.47 น.ตามเวลาฮ่องกงในวันนี้ อัตราผลตอบแทนในการทำสว็อปค่าเงินหยวนพุ่งขึ้น 0.5% แตะที่ 6.5920 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าสกุลเงินหยวนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น 3.6%
จีนได้ตรึงค่าเงินหยวนไว้ที่ระดับ 6.83 หยวนต่อดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.ค.2551 เพื่อช่วยกลุ่มบริษัทส่งออกให้สามารถรับมือกับดีมานด์ที่หดตัวลงอันเนื่องมาจากวิฤตการณ์การเงินทั่วโลกได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีน ยืนยืนเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า จีนจะไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของนานาชาติที่ต้องการให้จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวน
นักวิเคราะห์จากไชน่า เมอร์ชานท์ส แบงค์ กล่าวว่า ตลาดจำเป็นต้องจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศจีนอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะมั่นใจว่าอุตสาหกรรมส่งออกขยายตัวอย่างยั่งยืน พร้อมกับคาดการณ์ว่าจีนจะตรึงค่าเงินหยวนไว้ที่ระดับ 6.83 หยวนต่อดอลลาร์จนถึงช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และคาดว่าเงินหยวนจะไม่แข็งค่าเกิน 2%