รมว.คมนาคม เผยเตรียมใช้งบประมาณกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำร่องพัฒนาระบบโลจิสติกส์บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง โดยเชื่อมโยงการเดินทางแบบบูรณาการ ทั้งทางน้ำ ทางราง และทางถนน
"กระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งทางน้ำ ราง และถนนให้เป็นรูปธรรม โดยจะนำร่องการพัฒนาที่ท่าเรือแหลมฉบัง" นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าว
ทั้งนี้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ทั้งการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.), การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.), กรมทางหลวง(ทล.) และกรมทางหลวงชนบท(ทช.) ได้วางแผนพัฒนาร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงระบบการเดินทางและการขนส่งสินค้าภายในท่าเรือแหลมฉบัง คิดเป็นมูลค่าโครงการกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท
โดย กทท.มีโครงการก่อสร้างศูนย์ขนส่งสินค้าทางรถไฟมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ก่อสร้างลานขนถ่ายตู้สินค้ามูลค่า 1,090 ล้านบาท สามารถรองรับตู้สินค้าได้ปีละประมาณ 1 ล้านทีอียู และระยะที่ 2 ขยายลานขนถ่ายตู้สินค้า และจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์เพิ่มมูลค่า 900 ล้านบาท สามารถรองรับตู้สินค้าเป็นปีละ 2 ล้านทีอียู คาดว่าจะเปิดประกวดราคาและคัดเลือกบริษัทรับเหมาก่อสร้างได้ภายในปีนี้
ขณะที่ รฟท.อยู่ระหว่างการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ตอนฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง ระยะทาง 78 กิโลเมตร มูลค่า 3,926 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปี 2554
ด้านกรมทางหลวงนั้นอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงข่ายทางหลวงเพื่อสนับสนุนท่าเรือแหลมฉบังรวม 5 โครงการ ระยะทาง 168 กิโลเมตร มูลค่า 4,247 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2555 นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการเตรียมการเสนอของบประมาณในระหว่างปี 2553-2555 อีก 21 โครงการ ระยะทาง 516 กม. มูลค่า 19,120 ล้านบาท ซึ่งมีโครงการสำคัญคือ การก่อสร้างทางพิเศษหมายเลข 7 ระหว่างทางแยกต่างระดับหนองขามไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 8 กม. มูลค่า 500 ล้านบาท
ส่วนกรมทางหลวงชนบทมี 3 โครงการ มูลค่า 2,294 ล้านบาท ได้แก่ โครงการถนนตัดใหม่ 2 เส้นทาง คือ สาย ชบ.1074 แยกทางหลวงหมายเลข 7-นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง มูลค่า 1,706 ล้านบาท และสายแยก ชบ.1074-แยก ชบ.3009 มูลค่า 334 ล้านบาท และโครงการขยายช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร สาย รย.3013 แยก ทล.331-ทล.3191 จังหวัดระยอง มูลค่า 254 ล้านบาท