สำนักงานสถิติแห่งชาติอินเดียรายงานในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดียประจำเดือนพ.ย.ปี 2552 พุ่งขึ้น 11.7% ทำสถิติเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 25 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 10% ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางอินเดียเริ่มพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากลดอัตราดอกเบี้ยลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว
ตลาดหุ้นอินเดียที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายปี ประกอบกับต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นดีมานด์สินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงรถยนต์จากบริษัท มารูติ ซูซูกิ อินเดีย และโทรทัศน์สีจอพลาสม่าจากบริษัท แอลจี อิเล็กทรอนิก
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดียสอดคล้องกับข้อมูลการค้าที่ขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยทางการอินเดียเปิดเผยว่ายอดส่งออกเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 18.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน
นักวิเคราะห์จากบริษัท แมคควอรี กรุ๊ป ในสิงคโปร์กล่าวว่า เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของอินเดียและจีนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนเศรษฐกิจทั่วโลกขยายตัวขึ้น และอาจทำให้ธนาคารกลางของทั้งสองประเทศเริ่มหันมาใช้มาตรการควบคุมเงินเฟ้อ รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เศรษฐกิจทั่วภูมิภาคเอเชียเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากรัฐบาลของหลายประเทศในเอเชียประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มูลค่ารวม 1 ล้านล้านดอลลาร์ และลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้น โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนพุ่งขึ้น 19.2% ในเดือนพ.ย. และยอดส่งออกทะยานขึ้น 17.7% ในเดือนธ.ค.