ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร หลังสหรัฐเผยขาดดุลการค้าน้อยกว่าคาด

ข่าวต่างประเทศ Wednesday January 13, 2010 07:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยยอดขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ขณะที่สกุลเงินของประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์แคนาดา ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เพื่อควบคุมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4486 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ 1.4513 ยูโร/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.0400 ดอลลาร์แคนาดา/ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0333 ดอลลาร์แคนาดา/ดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0184 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0162 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่ร่วงลง 1.23% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 90.950 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 92.080 เยน/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 1.27% แตะที่ 0.9197 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.9315 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.59% แตะที่ 0.7384 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7428 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้า 3.64 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 9.7% จากระดับ 3.32 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าสหรัฐจะขาดดุลการค้าในเดือนพ.ย.เพียง 3.48 หมื่นล้านดอลลาร์

ส่วนสกุลเงินของประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์แคนาดา ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.5% เพื่อคลายความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีนที่มีอัตราขยายตัวเร็วที่สุดในโลก

นักลงทุนจับตาดูรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงการเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางประจำเดือนธ.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ