World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday January 13, 2010 09:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากอัลโค อิงค์ บริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง และข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เพื่อควบคุมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงหลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมจากสถาบันการเงิน เพื่อชดเชยยอดสูญเสียจากโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์รูดลง 36.73 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 10,627.26 จุด ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 10.76 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 1,136.22 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 30.10 จุด หรือ 1.30% ปิดที่ 2,282.31 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่าสภาพอากาศหนาวเน็บในสหรัฐเริ่มทุเลาลง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะทำให้ดีมานด์พลังงานลดลงด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐในวันพุธนี้

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 1.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่สัญญาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 81 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่งเป็นเวลาหลายวัน นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,129.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 22.00 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,124.30 - 1,158.30 ดอลลาร์

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยยอดขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ขณะที่สกุลเงินของประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์แคนาดา ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เพื่อควบคุมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4486 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ 1.4513 ยูโร/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.0400 ดอลลาร์แคนาดา/ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0333 ดอลลาร์แคนาดา/ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการที่ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์อาจทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารถูกเทขายหลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมจากสถาบันการเงิน เพื่อชดเชยยอดสูญเสียจากโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP)

ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 39.36 จุด ปิดที่ 5,498.71 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 5,459.94 - 5,549.61 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ