กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจกล่าวในที่ประชุมธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ในวันนี้ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มขยายตัวรวดเร็ว เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกทุเลาลงแล้ว อย่างไรก็ตาม กระบวนการฟื้นตัวยังอยู่ในภาวะเปราะบาง เนื่องจากรัฐบาลในหลายประเทศของเอเชียปรับเปลี่ยนนโยบาย แม้นโยบายเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจให้ยั่งยืนและรองรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตก็ตาม
ผลการศึกษาครั้งใหม่ของเอดีบี ภายใต้ชื่อหัวข้อ "Policy Changes for Asia after the Global Recession" หรือ "นโยบายที่เปลี่ยนแปลงในเอเชียภายหลังเศรษฐกิจโลกถดถอย" ระบุว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเอเชียมีแนวโน้มขยายตัวรวดเร็วในปีนี้เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับดังกล่าวเตือนว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเอเชียส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับนโยบายของกลุ่มชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ รวมถึงสหรัฐ แม้เศรษฐกิจสหรัฐยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ก็ตาม
ด้านนายฮารุฮิโกะ โครุดะ ประธานเอดีบีกล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียมีสัญญาณการฟื้นตัวเป็นรูป V โดยคาดว่าเศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัว 6.6% ในปีนี้ และเชื่อว่าการขยายตัวของเอเชียจะเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนเศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ประธานเอดีบีกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่รัฐบาลเอเชียจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกับสนับสนุนให้รัฐบาลสร้างเสถียรภาพในระบบการเงินและกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศต่อไป การถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจควรดำเนินการอย่างระมัดระวังและทำในช่วงเวลาที่เหมะสม
ประธานเอดีบีกล่าวว่า กระบวนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียอาจเปราะบางเนื่องจากหลายประเทศในเอเชียยังคงเผชิญกับปัญหาเรื่องการฟื้นตัว แม้จีน อินเดีย และอินโดนีเซียมีอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงาน