(เพิ่มเติม) ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.52 อยู่ที่ 70.4

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 14, 2010 12:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.52 อยู่ที่ 70.4 ปรับตัวดีขึ้นจาก 69.1 ในเดือน พ.ย.52 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 68.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 93.8

"การที่ดัชนีฯ ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 100 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 66 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะความกังวลเรื่องการฟื้นตัวที่ยังไม่แข็งแกร่งทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองและค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง" นายธนวรรธน์ กล่าว

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ คาดว่า การบริโภคของไทยจะยังไม่ขยายตัวมากนักในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่จะปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสสองของปีนี้เป็นต้นไป เนื่องจากดัชนีฯ ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความคาดหวังเรื่องการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานในอนาคต

"การที่ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องกันสองเดือน เป็นการดีขึ้นตามลำดับ ทำให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างมองว่าเศรษฐกิจจะไม่ทรุดตัวต่ำลงไปกว่านี้หากไม่มีเหตุการณ์เลวร้าย และเศรษบกิจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว" นายธนวรรธน์ กล่าว

สำหรับปัจจัยบวกที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ธ.ค.52 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือน พ.ย.52 เนื่องจากกระทรวงการคลังคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีปี 53 ขยายตัว 3.5%, ครม.ต่ออายุ 5 มาตรการเพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน, ครม.อนุมัติปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ, ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง และเม็ดเงินงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเริ่มหมุนเวียนในระบบ

ส่วนปัจจัยลบที่สำคัญ คือ ผู้บริโภคยังกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ, ปัญหาการชะลอโครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ความกังวลต่อค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ยังอยู่ในระดับสูง

"รัฐบาลควรเริ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสองให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว เพื่อส่งผลให้เกิดการจ้างงาน และบริหารงานด้านการเมืองให้มีเสถียรภาพ เพื่อช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภค" นายธนวรรธน์ กล่าว

ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ คาดว่า การบริโภคในช่วงไตรมาสแรกปีนี้น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยราว 1% ขณะที่ยอดขายของเอกชนจะขยายตัวราว 3-5% เป็นผลจากการฟื้นตัวด้านส่งออกและการท่องเที่ยว ประกอบกับ การเบิกจ่ายงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง และราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อเนื่องให้การบริโภคขยายตัวเพิ่มเป็น 2% ในไตรมาสสอง และขยายตัว 3-3.5% ในไตรมาสสาม ขณะที่ยอดขายของเอกชนจะขยายตัวเพิ่มเป็น 5-7% ในไตรมาสสอง และขยายตัว 7-10% ในไตรมาสสาม และหากมองทั้งปีคาดว่าการบริโภคจะขยายตัวอยู่ที่ 3% ภายใต้จีดีพี 3.2-3.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ