ต่างชาติยังเชื่อมั่นไทยยอดเอฟดีไอปี 52 โต 18%,นักลงทุนญี่ปุ่นครองแชมป์

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 14, 2010 13:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เผยนักลงทุนต่างชาติยังเชื่อมั่นประเทศไทย ส่งผลให้ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ(เอฟดีไอ) ปี 52 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18% โดยนักลงทุนญี่ปุ่นยังครองแชมป์เป็นกลุ่มที่สนใจเข้ามาลงทุนเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยจีน สหรัฐ เยอรมนี ไต้หวัน สวิตเซอร์แลนด์

"ในปี 2552 มีคำขอรับส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศจำนวน 788 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 350,754 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2551 ถึง 18 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติยังเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างดี" นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการบีโอไอ กล่าว

โดยสถิติขอรับส่งเสริมการลงทุนในปี 52 ซึ่งมีมูลค่าเงินลงทุน 723,400 ล้านบาท สูงที่สุดในรอบ 40 ปี และเป็นการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศจำนวน 350,754 ล้านบาท

เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า การที่นักลงทุนต่างชาติแสดงความมั่นใจต่อประเทศไทยด้วยการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเข้ามามากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเปิดสำนักงานบีโอไอในต่างประเทศเพิ่มอีก 6 แห่งและการเดินทางไปชักจูงการลงทุนในต่างประเทศ ทำให้มีโอกาสพบปะเจรจาชักชวนบริษัทชั้นนำในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย รวมทั้งเป็นผลมาจากมาตรการพิเศษกระตุ้นการลงทุนตามนโยบายปีแห่งการลงทุน

ทั้งนี้นักลงทุนญี่ปุ่นยังคงเป็นกลุ่มที่ต้องการเข้ามาลงทุนเป็นอันดับหนึ่งเหมือนเดิม โดยมีโครงการลงทุนจากญี่ปุ่นยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 266 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 77,380 ล้านบาท แม้จะลดลงจากปีก่อนหน้าประมาณ 24% แต่การลงทุนจากญี่ปุ่นในไทยก็ค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มมากขึ้นในช่วงปลายปี 52 โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค.52 นักลงทุนญี่ปุ่นขอรับส่งเสริมการลงทุน 45 โครงการ เงินลงทุน 23,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีการลงทุนจากหลายประเทศที่มีมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีโครงการขอรับส่งเสริมจำนวน 25 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 43,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 51 ซึ่งมีมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท ตามด้วยสหรัฐ 34,631 ล้านบาท สิงคโปร์ 34,264 ล้านบาท เนเธอร์แลนด์ 21,409 ล้านบาท เยอรมนี 20,289 ล้านบาท ไต้หวัน 20,267 ล้านบาท ฮ่องกง 13,817 ล้านบาท สวิตเซอร์แลนด์ 13,259 ล้านบาท เกาหลีใต้ 8,257 ล้านบาท อินเดีย 4,660 ล้านบาท และ ออสเตรเลีย 4,458 ล้านบาท

สำหรับอุตสาหกรรมที่นักลงทุนต่างชาติแสดงความสนใจจะเข้ามาลงทุนในไทย อันดับหนึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค 229 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 120,500 ล้านบาท มีโครงการขนาดใหญ่ เช่น กิจการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์

รองลงมาเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า จำนวน 164 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 98,911 ล้านบาท มีกิจการขนาดใหญ่ได้แก่ ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ และชิ้นส่วน และการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่างๆ ซึ่งมูลค่าเงินลงทุนของทั้งสองกลุ่มในปี 2552 สูงกว่ามูลค่าในปีก่อนหน้าทั้งสิ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ