ยอดขายในร้านค้าปลีกของสหรัฐเดือนธ.ค.มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง 3 เดือนซ้อน ขณะข้อมูลสต็อกสินค้าของสหรัฐในเดือนพ.ย.ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีทระบุว่า ยอดขายในร้านค้าปลีกของสหรัฐพุ่งสูงขึ้น 0.5% ในเดือนธ.ค. ซึ่งจะทำสถิติเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากผู้บริโภคแห่ซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลปลายปีซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่จัดแคมเปญลดแลกแจกแถมกันเป็นปกติ ขณะเดียวกัน สต็อกสินค้าของสหรัฐเดือนพ.ย.อาจเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่ขยายตัวได้ 0.2% ในเดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากยอดขายทั่วโลกที่กระเตื้องขึ้น ทำให้หลายบริษัทต้องเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อสำรองสินค้ามากขึ้น ทั้งนี้ ร้านค้าปลีกชื่อดังต่างออกแคมเปญดึงดูดเงินในกระเป๋าลูกค้าด้วยการลดราคาสินค้า ในช่วงที่ตลาดแรงงานสหรัฐยังไม่สู้ดีนัก ดังจะเห็นได้จากอัตราว่างงานที่พุ่งแตะระดับ 10% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 26 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัทยานยนต์ของสหรัฐเป็นกลุ่มที่ทำยอดขายได้เป็นอย่างมากในเดือนธ.ค.ด้วยตัวเลขยอดขายที่ไต่ระดับขึ้นแตะที่ 11.2 ล้านคัน ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.9 ล้านคันและทำสถิติขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
ด้านนักวิเคราะห์ได้แสดงความเห็นก่อนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ 2 รายการนี้ว่า แม้ขณะนี้อัตราการขยายตัวของยอดการใช้จ่ายผู้บริโภคยังไม่สูงมากนัก แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น