ริโอ ทินโต กรุ๊ป บริษัทเหมืองรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลกเผยผลผลิตสินแร่เหล็กไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาพุ่งขึ้นเกือบ 50% เนื่องจากอุปสงค์จากประเทศจีน ขณะหุ้นของริโอที่ซื้อขายในตลาดหุ้นออสเตรเลียวันนี้พุ่งสูงขึ้น 2.6%
แถลงการณ์ของริโอ ทินโตระบุว่า ผลผลิตสินแร่เหล็กในไตรมาส 4 ของปี 2552 ขยายตัว 49% แตะที่ 47.2 ล้านตัน ส่งผลให้ผลผลิตโดยรวมตลอดทั้งปีพุ่งสูงถึง 217 ล้านตัน
ยอดขายสินแร่เหล็กในเหมืองของริโอที่ออสเตรเลียนั้น พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งในรายไตรมาสและรายปี โดยบริษัทกล่าวว่า ขณะนี้อุปสงค์สินแร่เหล็กยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดอยช์แบงก์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรของริโอในปีนี้ขึ้นเกือบ 40% หลังจากที่คาดว่าจะมีการขึ้นราคาสัญญาสินแร่เหล็กในปีนี้
ด้านนักวิเคราะห์คาดว่าริโออาจรายงานผลกำไรประจำปี 2552 ที่ 5.8 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าผลผลิตสินแร่เหล็กในไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 46.7 ล้านตัน ส่วนผลผลิตตลอดทั้งปีจะอยู่ที่ 216 ล้านตัน หลังจากที่ไตรมาส 3 ริโอรายงานตัวเลขผลผลิตที่พุ่งเป็นประวัติการณ์ 47.5 ล้านตัน
ขณะที่ซีอีโอของริโอ ทินโตกล่าวว่า ผลผลิตสินแร่เหล็กในไตรมาสดังกล่าวขยายตัวสูงขึ้นมาก เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ในจีน ซึ่งขณะนี้สินค้าโภคภัณฑ์สำคัญๆของบริษัทก็เริ่มฟื้นตัวด้วยเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะยังต้องระมัดระวังสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลหลายแห่งเริ่มเพลาๆการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกันบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม ราคาสินแร่เหล็กที่พุ่งสูงอาจจุดชนวนความตึงเครียดระหว่างจีนและบริษัทผู้ผลิตสินแร่เหล็กขึ้นได้ หลังจากในช่วงที่มีการเจรจาเรื่องราคาเหล็กเมื่อปีที่แล้วเกิดกรณีที่นายสเติร์น หู หัวหน้าฝ่ายธุรกิจสินแร่เหล็กของริโอ ทินโตในจีนและพนักงานอีก 3 คนถูกจับกุมในเดือนส.ค.ในข้อหาล้วงความลับในอุตสาหกรรมเหล็กของจีน ซึ่งนับจากนั้นเป็นต้นมาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับบริษัทต่างชาติบางแห่งก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ริโอและบีเอชพี บิลลิตันได้เห็นชอบในข้อตกลงร่วมทุนด้านธุรกิจสินแร่เหล็กที่จะช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถประหยัดเงินได้อย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์/ปี