จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังระดับโลก กล่าวแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม "Investor Summit on Climate Risk" ณ องค์การสหประชาติ (ยูเอ็น) ที่นิวยอร์ก ว่า การที่สหรัฐไม่มีกฎหมายควบคุมการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจกถือเป็นการสกัดกั้นเม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการพลังงานคาร์บอนต่ำในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
โซรอส วัย 79 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกองทุนโซรอส ฟันด์ เมเนจเนท์ แอลแอลซี มูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ กล่าวว่า หากไม่มีการควบคุมการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้ม การลงทุนโครงการพลังงานคาร์บอนต่ำก็จะไม่สามารถทำกำไรได้ พร้อมกล่าวว่า เขาเตรียมที่จะลงทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และจะบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนนโยบายสิ่งแวดล้อม
"ถ้าสหรัฐออกกฎหมายควบคุมการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ก็จะทำให้เกิดตลาดพลังงานคาร์บอนต่ำ และทำให้มีเม็ดเงินลงทุนเข้ามามากมาย อีกทั้งจะทำให้ตลาดโครงการพลังงานสะอาดเฟื่องฟูตามมา แต่จนถึงขณะนี้สหรัฐยังไม่มีกฎหมายดังกล่าว ซึ่งถือว่าล้าหลังมาก" โซรอสกล่าว
ก่อนหน้านี้ โซรอสเสนอให้ชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจใช้เม็ดเงินในทุนสำรองของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อสนับสนุนประเทศที่กำลังพัฒนาในการรับมือกับปัญหาโลกร้อน นอกจากนี้ โซรอสยังกล่าวถึงการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกนว่า ไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะที่ประชุมไม่สามารถทำข้อตกลงที่ชัดเจนในเรื่องการลดโลกร้อน