นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงฯ ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้นำซากสัตว์ออกนอกราชอาณาจักร สำหรับซากสัตว์ประเภทหนังโค และหนังกระบือ ซึ่งคิดค่าธรรมเนียมในอัตรากิโลกรัมละ 1 บาท เชื่อว่าจะก่อให้เกิดผลดีต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือเพราะจะทำให้มีการส่งออกหนังโคที่ได้จากการเลี้ยงในประเทศไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้มากขึ้น และยังช่วยแก้ไขปัญหาภาวะล้นตลาดและปัญหาราคาหนังโค-กระบือดิบตกต่ำได้ด้วย
ทั้งนี้ หนังดิบที่ผลิตได้ในประเทศแล้วส่งไปจำหน่ายต่างประเทศประมาณ 130-150 ตัน/ปี กำหนดให้ต้องเสียภาษี 5 บาท/กก.และ เสียค่าธรรมเนียม 1 บาท/กก. ส่งผลกระทบทำให้หนังโค-กระบือดิบภายในประเทศมีราคาตกต่ำ
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังมีมติอนุมัติยกเว้นค่าธรรมเนียมนำเข้าไขมันสุกรแข็ง ไส้สุกร และไส้แกะ สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตไส้กรอกเพื่อการส่งออกซึ่งคิดในอัตรากิโลกรัมละ 5 บาท โดยประเทศไทยมีการส่งออกไส้กรอกไปต่างประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 15 ล้านกก. คิดเป็นมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท/ปี และอุตสาหกรรมผลิตไส้กรอกเพื่อการส่งออกมีอัตราการขยายตัว 20 -30%/ปี ซึ่งการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตไส้กรอกเพื่อการส่งออกนี้ คาดว่าจะทำให้มีการขยายการส่งออกมากขึ้นจาก 15 ล้านกก./ปี คิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาท ในปี 2552 เป็น 26 ล้านกก./ปี คิดเป็นมูลค่า 520 ล้านบาท ในปี 2554
ทั้งนี้ การยกเว้นค่าธรรมเนียมฯ ทั้ง 2 ประเภท นอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาภาวะล้นตลาดและเสถียรภาพในด้านราคาหนังโค- กระบือดิบ และลดภาระต้นทุนการผลิตผลิตภัณฑ์สุกรแปรรูปประเภทไส้กรอกแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการส่งออกหนังโค- กระบือดิบและผลิตภัณฑ์สุกรแปรรูป ซึ่งจะก่อให้เกิดการกระจายสินค้าที่ผลิตภายในประเทศให้สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้อีกด้วย