นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมระบายข้าวในสต๊อกจำนวน 3.75 แสนตัน แยกเป็น ข้าวขาว 5% ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551 นาปี ปี 2551/52 และนาปรัง ปี 2552 ประมาณ 300,000 ตัน และข้าวเหนียวขาว 10% ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก นาปี ปี 2551/52 ประมาณ 75,000 ตัน
"ขณะนี้ภาวะตลาดข้าวในประเทศจึงค่อนข้างมีความตึงตัวโดยราคาข้าวในประเทศได้ปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์แรกของปี 2553 เนื่องจากผู้ส่งออกต้องเร่งจัดหาข้าวเพื่อส่งมอบให้ผู้นำเข้าภายหลังจากเทศกาลปีใหม่ ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จึงได้อนุมัติการระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลเพื่อผ่อนคลายความตึงตัวของตลาดข้าวในประเทศและเพื่อตอบสนองความต้องการข้าวของตลาดต่างประเทศ รวมทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าวในสต็อกรัฐบาล" นายวิจักร กล่าว
โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ออกประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ในวันที่ 21 ม.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น.
เนื่องจากสถานการณ์ข้าวโลกในปี 53 จะมีความตึงตัวเพราะผลผลิตข้าวต่ำกว่าความต้องการบริโภคข้าว ซึ่งเป็นผลจากหลายประเทศมีผลผลิตข้าวที่ลดลงจากภัยธรรมชาติและต้องการเพิ่มปริมาณสต็อกข้าวภายในประเทศ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้น สำหรับสถานการณ์ข้าวในประเทศผลผลิตข้าวนาปีได้ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 21.20 ล้านตันข้าวเปลือก หรือคิดเป็น 92.28% ของผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมด ผลผลิตข้าวนาปรังจะเริ่มออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากในเดือน เม.ย.-มิ.ย.53
หลังจากปิดรับซองแล้ว กรมการค้าต่างประเทศจะประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาซื้อที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและเปิดซองเสนอราคาซื้อ ในวันที่ 21 ม.ค.53 ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป และคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสารจะเจรจาต่อรองกับผู้เสนอราคาซื้อในวันที่ 22 ม.ค.53 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป โดยจะเจรจาต่อรองราคากับผู้เสนอราคาซื้อที่อยู่ในเกณฑ์ราคาเท่านั้น เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นประโยชน์ต่อราชการมากที่สุด