บริษัท ไนท์แฟรงค์ แอลแอลพี ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังระดับโลกและมีสำนักงานอยู่ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เปิดเผยในรายงานวันนี้ว่า ราคาบ้านในฮ่องกงทะยานขึ้นสูงสุดในปีที่แล้วเมื่อเทียบกับบรรดาตลาดอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ทั่วโลก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นว่าฮ่องกงอาจเผชิญกับภาวะฟองสบู่ด้านอสังหาริมทรัพย์
ไนท์แฟรงค์ แอลแอลพี เปิดเผยดัชนีราคาอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยระบุว่าราคาบ้านโดยเฉลี่ยในฮ่องกงพุ่งขึ้น 33% แซงหน้าราคาบ้านในอิสราเอลที่เพิ่มขึ้น 22% และเกือบ 16% ในนอร์เวย์ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาบ้านในฮ่องกงทะยานขึ้นเหนือประเทศอื่นๆมาจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของราคาอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก จนส่งผลให้ราคาบ้านในฮ่องกงพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง และทำให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ต้องออกรายงานเตือนรัฐบาลฮ่องกงให้ใช้นโยบายชะลอความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์
เลียม เบลีย์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ของไนท์แฟรงค์กล่าวว่า "ไม่เพียงแต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เท่านั้นที่ส่อเค้าว่า จะเผชิญกับภาวะฟองสบู่ แต่ราคาหุ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในฮ่องกงทะยานขึ้นอย่างมากในช่วง 12 เดือนที่แล้ว อาจกล่าวได้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกงและอีกหลายภูมิภาคในจีนกำลังบูมสุดขีดในขณะนี้"
เบลีย์ยังกล่าวด้วยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่ราคาบ้านในไอร์แลนด์ สเปน และอังกฤษยังคงอยู่เหนือระดับพื้นฐานอยู่ราว 15 - 30% เมื่อคำนวณจากรายได้โดยเฉลี่ยของประชากร ส่วนราคาอสังหาริมทรัพย์ในดูไบตกต่ำที่สุด โดยร่วงลงถึง 42% รองลงมาคือ บัลกาเรีย และไอร์แลนด์