นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นด้วยที่ทางกระทรวงพาณิชย์จะมีการระบายข้าว 3.75 แสนตันในช่วงนี้ถือว่ามีความเหมาะสม แต่จำเป็นต้องมีการบริหารช่องทางต่างๆไม่ให้กระทบเทือนกับตลาดจนเกินไป ซึ่งสามารถทยอยดำเนินการได้
สำหรับนโยบายการระบายข้าว 6 ล้านตันนั้น ได้ให้นโยบายไปในที่ประชุมคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ (กขช.) แล้ว คือรักษาประโยชน์ของรัฐ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อตลาด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมเข้าไปตรวจสอบบริษัทที่ชนะการประมูลข้าวโพดซึ่งมีความใกล้เคียงกับบริษัท จีจีเอฟ ที่ชนะการประมูลโครงการโซโลข้าวและถูกยกเลิกสัญญาไป ซึ่งยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ โดยจะสอบถามไปว่าเป็นล๊อตไหนและมีการประมูลเมื่อไร และจะพิจารณาว่าควรจะมีการยกเลิกสัญญากับริษัทจีจีเอฟด้วยหรือไม่
"เรื่องนี้สามารถดำเนินการร้องเรียนมาได้ หากมีข้อมูลที่พบว่ามีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น"
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางมาเลเชียเริ่มแสดงเจตจำนงว่าอยากจะย้ายไปลงทุนที่กัมพูชาเพราะมีปัญหา เรื่องสัญญากับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของทางมาเลเซียที่สามารถดำเนินการได้
นอกจากนี้ในส่วนกรรมการทุกชุดที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เคยรับผิดชอบอยู่ในสมัยที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีก็เปลี่ยนให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแลแทน