ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร หลังเยอรมนีเผยดัชนีความเชื่อมั่นอ่อนแอ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday January 20, 2010 07:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) โดยค่าเงินยูโรดิ่งลงอย่างหนักหลังจากเยอรมนีเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนที่อ่อนแอ และกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับยอดขาดดุลของกรีซ ขณะที่เงินเยนอ่อนตัวลงเนื่องจากนักลงทุนแห่ถือครองดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เนื่องจากสถานการ์การเมืองในญี่ปุ่นยังไร้เสถียรภาพ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.58% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4302 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4385 ยูโร/ดอลลาร์ และทะยานขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 91.100 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 90.720 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ระดับ 1.0313 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.0246 ฟรังค์/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6372 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6330 ปอนด์/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรดิ่งลงหลังจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีเป้าหมายเพื่อชี้วัดแนวโน้มของนักลงทุนสำหรับช่วงเวลา 6 เดือนข้างหน้า ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 47.2 ในเดือนม.ค. จากระดับ 50.4 จุดในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในเดือนก.ย. 2552

โดยตัวเลขที่ลดลงนี้มากกว่าที่สื่อในประเทศคาดการณ์เอาไว้มาก โดยสื่อเยอรมันคาดการณ์ว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนม.ค.จะลดลงแค่ 0.4 จุดจากเดือนก่อน

ทั้งนี้ ZEW ระบุว่า ทิศทางขาลงของดัชนีแสดงให้เห็นว่า ผู้เชี่ยวชาญในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะฟื้นตัวในอัตราที่ชะลอตัว โดยเฉพาะภาคยานยนต์และการบริโภคมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งปีหน้า

นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากมีรายงานว่ารัฐมนตรีคลังของหลายประเทศในยุโรปเรียกร้องให้รัฐบาลกรีซเร่งลดยอดขาดดุลงบประมาณ เนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินเข้ากรีซกำลังเข้าขั้นวิกฤตและอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อประเทศอื่นๆในยุโรป

โดยนายวอเตอร์ บอส รัฐมนตรีคลังของเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า กรีซจำเป็นต้องตระหนักถึงสถานการณ์ที่รุนแรงอันเป็นผลมาจากยอดขาดดุลงบประมาณที่สูงขึ้น และกรีซต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้ก่อนที่จะลุกลามเข้าไปสร้างความเสียต่อระบบเศรษฐกิจของยุโรปทั้งระบบ ขณะที่นายฌอง-คล้อด จังเกอร์ รัฐมนตรีคลังของลักเซมเบิร์กกล่าวว่า รัฐบาลกรีซต้องเร่งสร้างเสถียรภาพและการขยายตัวอย่างยั่งยืนของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่สำคัญคือการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ

ยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของกรีซส่งผลให้ S&P ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงหนึ่งขั้น สู่ระดับ BBB+ จากเดิมที่ระดับ A- และเตือนว่าจะลดอันดับเครดิตลงอีกหากรัฐบาลไม่สามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณ ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับเครดิตของกรีซลงสู่ระดับ BBB+ เช่นกัน ส่วนมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ลดอันดับเครดิตของกรีซลงหนึ่งขั้นสู่ระดับ A2 จากเดิมที่ A1


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ