ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนเป็น 1.4088% ในวันนี้ นับเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนยังคงเฝ้าระวังความเสี่ยงเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น
อัตราผลตอบแทนดังกล่าวปรับตัวขึ้น 0.04% จากระดับ 1.3684% ในสัปดาห์ก่อน โดยธนาคารกลางจีนได้ขึ้นดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ม.ค.หลังจากที่ไม่เปลี่ยนแปลงมา 5 เดือน ซึ่งก็เท่ากับว่าการขึ้นดอกเบี้ยตั๋วเงินครั้งในวันนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ และเป็นครั้งที่ 2 แล้วในปีนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นมาตรการคุมเข้มตลาดการเงินล่าสุดในบรรดามาตรการต่างๆที่แบงก์ชาติจีนได้ประกาศใช้ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ การควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในประเทศซึ่งขยายตัวอย่างรวดเร็ว และการเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.5% ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากหวั่นเกรงว่าการขยายตัวของสินเชื่อที่สูงเกินไปจะส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์
โดยในวันเดียวกันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัวขึ้น 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธ.ค.2552 ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 13 เดือน
นอกจากนี้ ยังได้มีการเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 ปี 2552 ขยายตัว 10.7% จากปีก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 8.9% และเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาสที่จีดีพีจีนโตในระดับตัวเลข 2 หลัก ส่วนจีดีพีปี 2552 ขยายตัว 8.7% คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 33.54 ล้านล้านหยวน หรือ 4.91 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ