รัฐบาลเฮติคาดการณ์ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 7.0 ริกเตอร์ที่กระหน่ำเฮติเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา จะฉุดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หดตัวลง 25% และอาจทำให้ประชาชนกว่า 2 ล้านคนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย
ด้านนายเลโอ เมโรเรส เอกอัคราชทูตเฮติประจำสหประชาชาติคาดการณ์ว่า การฟื้นฟูเฮติให้กลับคืนสู่สภาพเดิมอาจต้องใช้เวลานานถึง 25 ปี อีกทั้งยังส่งผลให้มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจพุ่งขึ้นกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าเมื่อครั้งที่เฮติถูกพายุเฮอริเคนถล่ม 4 ครั้งในปี 2551 โดยในครั้งนั้นตัวเลขจีดีพีของเฮติหดตัวลง 15%
นายเมโรเรสกล่าวว่า กว่า 1 ใน 3 ของสิ่งปลูกสร้างในเมืองปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ และเมืองรอบๆ ถล่มลงมาเสียหายยับเยิน ทำให้มีการคาดการณ์ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้อาจสูงกว่า 200,000 คน ขณะที่ประชาชนกว่า 250,000 คนได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน
"ประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาลมีจำกัดมาก เนื่องจากกระทรวงส่วนใหญ่ของเฮติ รวมถึงกระทรวงฝ่ายกิจการต่างประเทศ กระทรวงเทคโนโลยี และกระทรวงฝ่ายวางแผน ตกอยู่ในภาวะล่มสลาย" นายเมโรเรสกล่าว
รายงานระบุว่า จนถึงขณะนี้ยูเอ็นได้รับเงินบริจาคช่วยเฮติ 195 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทั้งหมดที่เรียกร้องจากทั่วโลก 560 ล้านดอลลาร์ และยังมีอีกหลายประเทศที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะบริจาคอีก 112 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ สภาคองเกรสสหรัฐยังได้อนุมัติแผนการให้ผู้เสียภาษีชาวอเมริกันบริจาคเงินช่วยเฮติผ่านทางการหักเงินคืนภาษีประจำปี 2552