นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศผู้ผลิตยางพาราในระดับรัฐมนตรี คือ ไทย มาเลเซียและอินโดนีเซีย ได้มีมติเห็นชอบร่วมกันที่จะรักษาเสถียรภาพราคายางพารา และกำหนดแนวทางการแก้ปัญหายางพาราตกต่ำร่วมกัน
โดยประเด็นหลักใหญ่ของความร่วมมือในการประชุมครั้งนี้ คือ การให้แต่ละประเทศทำการศึกษาและหาแนวทางในการจัดตั้งกองทุนเพื่อรักษาเสถียรภาพยางพาราในประเทศของตน โดยกองทุนดังกล่าวจะดูแลในเรื่องของสวัสดิการของผู้ปลูกยางพาราและเกษตรกรผู้ใช้แรงงาน ตลอดจนการรักษาเสถียรภาพยางพารา การประกันรายได้เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมไตรภาคีได้มีมติที่จะเชิญประเทศเวียดนามซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตยางอันดับที่ 4 ของโลกเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดความแข็งแกร่งของอำนาจการต่อรองทางการค้าสินค้ายางพาราในตลาดโลกมากยิ่งขึ้น
“การที่ราคายางพารามีเสถียรติภาพในระดับที่คงที่ ไม่แกว่งตัวในระดับสูงหรือต่ำมากจนเกินไป จะเป็นผลดีต่อทั้งเกษตรกรผู้ปลูกยาง ผู้ประกอบการแปรรูปและประเทศคู่ค้ายาง เพราะจะทำให้สามารถวางแผนการผลิต และทำการตลาดได้ถูกต้อง โดยในส่วนของประเทศไทยตั้งเป้าราคายางแผ่นดิบรมควันเฉลี่ยกิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 80 บาท ส่วนอีก 2 ประเทศก็อยู่ในเกณฑ์ราคาเฉลี่ยที่ใกล้เคียง โดยทั้ง 3 ประเทศจะจับมือร่วมกันเพื่อรักษาเสถียรติภาพราคายางในตลาดโลก" นายศุภชัย กล่าว