บริษัทเหล็กสัญชาติจีนอาจต้องเตรียมรับมือกับต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น หลังบริษัทเหล็กรายใหญ่สุดของโลกอย่างอาร์เซลอร์ มิตตาล รวมถึงพอสโคจากเกาหลีใต้ เพิ่มกำลังการผลิตเหล็กเพื่อรองรับอุปสงค์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว
นักวิเคราะห์มองว่า บริษัทเหล็กรายใหญ่ในจีนต้องปรับขึ้นราคาเหล็กในปีนี้ เพราะกำลังการผลิตเหล็กของบริษัทเหล็กในประเทศอื่นๆพุ่งสูงขึ้น โดยคาดว่า ราคาสัญญาเหล็กอาจไต่ระดับขึ้น 31% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นครั้งที่สองในรอบปีเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมาว่าจะขยายตัว 14% ขณะที่โนมูระ อิงค์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์คาดว่าราคาเหล็กอาจทะยานขึ้นถึง 50% เลยทีเดียว
นอกจากนี้ บีเอชพี บิลลิตัน ริโอ ทินโต กรุ๊ป และวาเล เอสเอ สามผู้ผลิตสินแร่เหล็กรายใหญ่ที่มียอดขายสินแร่เหล็กรายปีรวมกันที่ประมาณ 4.43 หมื่นล้านตันจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางอุปสงค์ในครั้งนี้ หลังจากที่วิกฤตเศรษฐกิจถดถอยโลกเมื่อปีที่ผ่านมาได้กดดันให้เหมืองต่างๆลดราคาสินแร่เหล็กลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีที่อัตรา 33%
ทั้งนี้ อาร์เซลอร์มิตตาล กำลังเพิ่มการผลิตเหล็ก ขณะที่พอสโค ผู้ผลิตเหล็กสัญชาติเกาหลีใต้คาดว่า อุปสงค์เหล็กในตลาดโลกจะขยายตัวได้ 10% ในปีนี้ ขณะที่หลายฝ่ายคาดหมายว่า อุปสงค์สินแร่เหล็กจากจีนอาจพุ่งสูงขึ้น 6.2% ในปีนี้
สำหรับอัตราการซื้อสินแร่เหล็กในตลาดโลกอาจพุ่งขึ้น 16% ขณะที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลผลิตเหล็กได้กระตุ้นให้จีนแห่ซื้อสินแร่เหล็กกักตุนไว้ จนส่งผลให้ราคาสินแร่เหล็กทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีที่ 131.20 ดอลลาร์/ตันเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่าผลผลิตเหล็กดิบในปีนี้อาจมีจำนวนเพิ่มขึ้น 100 ล้านตัน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว นอกจากนี้ การเจรจาเรื่องราคาสินแร่เหล็กอาจได้ข้อสรุปเร็วขึ้น เพราะสถานการณ์ต่างๆเริ่มมีความชัดเจนจนทำให้หลายฝ่ายต้องยอมรับถึงการขึ้นราคาวัตถุดิบดังกล่าว