สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีนคาดการณ์ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและต้นทุนการผลิตเหล็กที่พุ่งสูงขึ้นจะช่วยกระตุ้นให้ราคาเหล็กในประเทศปีนี้ให้สูงขึ้นตามไปด้วย
"เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกเริ่มหลุดพ้นจากวิกฤตการณ์ทางการเงินได้ทีละน้อย ซึ่งภาวะเช่นนี้จะทำให้อุปสงค์เหล็กปรับตัวสูงขึ้นตามมา" CISA ระบุ
นอกจากราคาสินแร่เหล็กและถ่านโค้กที่ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว นโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และแนวโน้มการเพิ่มอัตราจัดเก็บภาษีทรัพยากรอาจหนุนให้ต้นทุนการผลิตเหล็กแพงขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ดัชนีราคาเหล็กโดยเฉลี่ยในปี 2552 อยู่ที่ระดับ 103.12 จุด ซึ่งปรับตัวลดลง 24.54% จากปีที่ผ่านมา ส่วนราคาเฉลี่ยเหล็กเส้นและเหล็กเกลียวลดลง 1,049 -1,164 หยวนต่อตัน จากระดับในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่เหล็กรีดร้อน-รีดเย็น และราคาเหล็กม้วนทรุดฮวบลง 1,313-1,364 หยวน/ตัน และแผ่นเหล็กขนาดกลางและหนาตกลง 1,837 หยวน/ตัน ส่วนท่อเหล็กรีดร้อนร่วงลง 1,684 หยวน/ตัน
อย่างไรก็ตาม ในปลายเดือนธ.ค.2552 ดัชนีราคาเหล็กขยายตัวขึ้น 1.94% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน แตะที่ระดับ 106.4 จุด เนื่องปัจจัยหนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน สำนักข่าวซินหัวรายงาน