เจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป (อียู) กำลังดำเนินการตรวจสอบว่า การร่วมทุนรระหว่างบริษัท บีเอชพี บิลลิตัน และริโอ ทินโต จะส่งผลกระทบต่อการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เหล็กหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อียูไม่ได้กำหนดเส้นตายของการตรวจสอบว่าจะเสร็จสิ้นลงเมื่อใด
บีเอชพี บิลลิตัน และริโอ ทินโต ระบุว่า การร่วมทุนในสัดส่วน 50-50 ซึ่งครอบคลุมถึงการผนวกรวมเหมืองแร่ เส้นทางรถไฟ ท่าเรือ และพนักงานในเขตพิลบาราของออสเตรเลียตะวันตก จะช่วยให้ทั้งสองบริษัทประหยัดต้นทุนได้อย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่เจ้าหน้าที่ตัวแทนจากกลุ่มผู้ผลิตเหล็ก รวมถึงตัวแทนจาก ArcelorMittal และ ThyssenKrupp AG กล่าวว่าข้อตกลงร่วมทุนระหว่างบีเอชพี บิลลิตัน และริโอ ทินโต จะทำให้ทั้งสองบริษัทสามารถกุมอำนาจในตลาดวัตถุดิบที่ใช้ในการถลุงเหล็ก และจะส่งผลให้ราคาสินแร่เหล็กปรับตัวสูงขึ้นสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมเหล็ก
ผู้บริหารบีเอชพี บิลลิตัน คาดว่า การทำข้อตกลงร่วมทุนกับริโอ ทินโต จะเสร็จสิ้นภายในช่วงปลายปี 2553 แต่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการด้านการแข่งขันและผู้บริโภคของออสเตรเลีย รวมทั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุ่มตลาดในญี่ปุ่นและเยอรมนี
The Steel Index ระบุว่า ราคาสินแร่เหล็กที่พร้อมส่งมอบไปยังจีนพุ่งขึ้นแตะระดับ 131.20 ดอลลาร์/ตัน ณ วันที่ 8 ม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน