สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ยอมรับนักลงทุนต่างชาติมีความกังวลมากขึ้น หลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอออกจากมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของ 30 โครงการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด แต่จะเดินหน้ารวบรวมข้อมูลเพื่อยื่นคำร้องขออุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป
"ภาคเอกชนมีความเป็นห่วงเรื่องโครงการที่ต้องหยุดชะงักไป ทั้งในส่วนที่จะเริ่มดำเนินการ และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน ซึ่งหากต้องกับไปเริ่มกระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) และด้านสุขภาพ(HIA)ใหม่ก็จะต้องเสียเวลาเป็นจำนวนมาก"นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธาน ส.อ.ท. กล่าว
ทั้งนี้ ภาคเอกชนเตรียมรวบรวมข้อมมูลทั้งหมดเพื่อยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลฯว่าจะรับดำเนินการหรือไม่ พร้อมกันนี้ยังเห็นว่ารัฐบาลควรชี้แจงขั้นตอนทำงานให้นักลงทุนต่างชาติรับทราบความคืบหน้าเป็นระยะๆ เนื่องจากนักลงทุนบางรายไม่ทราบกระบวนการทางกฎหมายของไทยอย่างชัดเจน
ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า นักลงทุนในประเทศยังต้องการให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ เพราะไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการลงทุน ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ภาคเอกชนจะหารือร่วมกันว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร โดยพร้อมที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่มีอยู่
"เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งที่ลงทุนอยู่ในขณะนี้และนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนใหม่ ทำให้ต้องมีการทบทวนการลงทุนในไทยใหม่" นายพยุงศักดิ์ กล่าว