นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ(คต.) กล่าวว่า กรมฯได้นำเสนอผลการเจรจาต่อรองราคากับผู้ที่ยื่นประมูลข้าวในสต็อกรัฐบาลจำนวน 375,000 ตัน ให้กับนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ พิจารณาแล้ว คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ว่าจะตัดสินใจขายข้าวหรือไม่
"ขั้นตอนหลังจากนี้ไปขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่าจะเห็นชอบหรือให้เพิ่มการเจรจาต่อรอง หรือจะล้มการประมูลใหม่หรือไม่"นายวิจักร กล่าว
อย่างไรก็ตาม การเจรจาต่อรองราคากับเอกชนที่ยื่นประมูลสามารถทำให้ราคาสูงขึ้นมาอีก 200-600 บาท/ตัน ซึ่งเป็นราคาที่สามารถลดการขาดทุนของภาครัฐได้ ขณะที่ข้าวเหนียวนั้น เอกชนยังให้ราคาต่ำ หากมีการอนุมัติก็จะสามารถเปิดเผยในรายละเอียดทั้งหมดได้
อนึ่ง กรมการค้าต่างประเทศเปิดซองประมูลข้าว 375,000 ตันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งหลังจากที่คณะทำงานเจรจาต่อรองราคาข้าวได้เจรจาต่อรองกับเอกชนทั้ง 22 ราย ที่ได้เสนอราคารับซื้อข้าวจากรัฐบาลโดยเฉลี่ย 14,000-16,000 บาท/ตัน ซึ่งราคาที่เอกชนเสนอซื้อเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาด
นายวิจักร กล่าวว่า สัญญาณราคาข้าวในตลาดโลกยังมีแนวโน้มขาขึ้นจากปัญหาภัยธรรมชาติ ทำให้ความต้องการข้าวของโลกยังมีอยู่สูง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ราคาข้าวในตลาดโลกมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นอีก จึงเป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าเอกชนควรจะให้ราคาเพิ่มขึ้นอีก
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการล้มประมูลในส่วนของข้าวเหนียวเพราะราคาจากการต่อรองยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ราคาประมูลข้าวขาว 2.9 แสนตันก็ยังค่อนข้างต่ำกว่าที่ควร จึงขึ้นกับรมว.พาณิชย์จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเคาะขายหรือไม่ แต่ก็เชื่อว่าหากเลือกได้กระทรวงพาณิชย์ก็คงจะยังไม่ตกลงขายในขณะนี้ แม้ว่าจะมีความพยายามจากผู้ส่งออกที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งระบายข้าวในสต็อกออกมา