เงินวอนของเกาหลีใต้และเงินเปโซของฟิลิปปินส์ร่วงลงนำสกุลเงินเอเชียอ่อนค่าลงถ้วนหน้าในวันนี้ ท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลว่า การใช้มาตรการควบคุมตลาดสินเชื่อของรัฐบาลจีนจะบั่นทอนความต้องการถือครองสกุลเงินในเอเชียและกีดขวางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
โดยเงินวอนร่วงลงอย่างหนักในวันนี้หลังมีรายงานว่า ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4 ของปี 2552 ขยายตัวได้เพียง 0.2% ซึ่งลดลงจากที่พุ่งสูงขึ้น 3.2% ในไตรมาสก่อนหน้านี้
สกุลเงินเอเชียต่างทรุดตัวลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ นำโดยเงินวอนที่ดิ่งลง 1.3% ส่วนเงินเปโซตกลง 0.5% และเงินริงกิตอ่อนค่าลง 0.6% ขณะที่เงินรูเปียห์ทรุดตัว 0.4% ส่วนเงินดอลลาร์สิงคโปร์หดตัว 0.4% ขณะที่เงินบาทของไทยตกลงไป 0.2% และเงินหยวนย่ำฐานทรงตัวที่ระดับเดิม
ขณะเดียวกัน ดัชนี MSCI Asia-Pacific Index ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในปีนี้ หลังมีรายงานข่าวระบุว่า ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในจีนเตรียมเพิ่มสัดส่วนกันสำรองเงินสดระลอกใหม่
นักวิเคราะห์กล่าวว่าสกุลเงินเอเชียมีปฏิกิริยาต่อข่าวที่ว่า จีนได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มในตลาดสินเชื่อและขอให้ธนาคารพาณิชย์ปรับเพิ่มเพดานกันสำรองอีกครั้งหลังจากที่ได้ประกาศขึ้นเพดานกันสำรองขึ้น 0.25% สู่ระดับ 16% ไปแล้วในก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมการขยายตัวของอัตราการปล่อยกู้ที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์และป้องกันปัญหาภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว แต่ก็ยอมรับว่าการขยายตัวอาจจะไม่หวือหวาอย่างที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าตลาดยังคงต้องเผชิญความผันผวนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้